‘พายุ’ แจงพร้อมลงเขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ชลบุรี เปิดตัวผู้สมัครเขต 7 ‘จักรกฤช ไกรมาตย์’

 

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม “พายุ” นายพรรณธฤต เนื่องจำนงค์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ถูกกระแสโซเชียลโจมตีหนักเรื่องล้มละลาย คาดว่าอาจจะไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ว่า กรณีมีข่าวว่าตนเองถูกฟ้องล้มละลายนั้น คดีความได้จบลงไปแล้ว และตนพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่เขต 4 ชลบุรี ประกอบไปด้วยอำเภอบ้านบึง บ่อทอง และหนองใหญ่ ในนามของพรรคประชาธิปัตย์ เหลือแต่เพียงการทำไพรมารีโหวตเท่านั้น ขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมในการวางแผนเลือกตั้งแล้ว และหวังว่าคนรุ่นใหม่ที่จะใช้สิทธิครั้งแรกพร้อมให้การสนับสนุน เพราะว่าเป็นคนรุ่นใหม่อีกด้วย

นายพรรณธฤตกล่าวว่า ในการทำงานทางการเมืองในแนวคิดของคนรุ่นใหม่นั้น ในฐานะที่ลงสมัครรับเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์แล้ว จะต้องช่วยเหลือชาว จ.ชลบุรีไม่เฉพาะในเขตเลือกตั้งเท่านั้น การทำงานการเมืองทุกคนจะได้รับประโยชน์ ในฐานะตัวแทน “เนื่องจำนงค์” และคลุกคลีอยู่กับนายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ อดีต ส.ส.ชลบุรีหลายสมัย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเป็นปู่ ได้ปลูกฝังการเมืองมาตลอด ในการช่วยเหลือประชาชน ที่ผ่านมาปู่ไม่เคยเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน ช่วยเหลือชาวบ้านมาตลอด แม้กระทั่งที่ทำกินไม่เคยขึ้นค่าเช่าจนถึงปัจจุบันนี้ โดยหวังว่าจะให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีที่ทำกิน ก็คงต้องสานต่อปณิธานของปู่ต่อไป

Advertisement

“ส่วนการที่จะต้องแข่งขันกับนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ จากพรรคพลังประชารัฐ หรือนายสมชาย เนื่องจำนงค์ จากพรรคอนาคตใหม่ ที่จะลงสมัคร ส.ส.ในเขต 4 ชลบุรีนั้นไม่หนักใจ การเมืองเมื่อมีการแข่งขันก็ต้องว่ากันไปตามเกมการเมือง” นายพรรณธฤตกล่าว

นายจักกฤช ไกรมาตย์ ว่าที่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี เขต 7 พรรคประชาธิปัตย์ น้องชายของนายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ เจ้าของนวัตกรรมลูกบอลดับเพลิงกล่าวว่า ขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมในการหาเสียงแล้ว โดยได้ออกพบปะประชาชนตามชุมชนต่างๆ เพื่อแนะนำตัว เบื้องต้นจะลงพื้นที่เมืองพัทยา เทศบาลเมืองหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังจากนั้นจะลงเขตพื้นที่ที่เหลือต่อไป เมื่อลงการเมืองแล้วก็ต้องหวังชนะ และหวังว่าจะปักธงในพื้นที่เขต 7 ชลบุรีให้ได้

Advertisement

นายจักกฤชกล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบประชาชนได้รับการร้องเรียนกันมาอย่างมากมาย โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่พัทยา รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำ จึงมีความคิดว่าหากมีโอกาสได้เป็นตัวแทนของประชาชน คงจะต้องแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการขยายอ่างเก็บน้ำ 2 แห่งให้มีความจุมากยิ่งขึ้นคือ อ่างเก็บน้ำมาบปะชัน และอ่างเก็บน้ำชากนอก ที่สำคัญในอนาคตเมืองพัทยาจะมีการบูมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะต้องมีการใช้น้ำมากเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาแหล่งน้ำ เห็นได้จากการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร ที่ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ที่มีความจุ 98 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องน้ำในพื้นที่ จ.ชลบุรี เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนเช่นกันหากได้เป็นรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในพื้นที่เมืองพัทยาและบางละมุง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image