กรณีนักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม ถูกตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองมหาสารคาม ทำร้ายร่างกายขณะเข้าตรวจค้นยาเสพติดในห้องพักแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม และบังคับให้เซ็นชื่อยินยอมให้ตรวจค้น ก่อนที่ญาติและเจ้าอาวาสวัดดังใน จ.กาฬสินธุ์ นำเรื่องโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กเพื่อขอความเป็นธรรม โดยครอบครัวของนักศึกษาได้เข้าร้องเรียนเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม และลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองมหาสารคาม เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 ธันวาคม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชัยโรจน์ นาคราช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม ที่ห้องทำงาน สภ.เมืองมหาสารคาม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนที่นักศึกษาจะออกมาจากห้อง โดยไม่ให้ข้อมูลใด ๆ ต่อสื่อมวลชน
พ.ต.อ.ชัยโรจน์ นาคราช ผู้กำกับการ สภ.เมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาแล้ว คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ โดยมี พ.ต.ท.วุฒิ ศรีวิลัย รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนข้อเท็จจริง
“หลังจากผลการสอบสวนออกมาแล้วก็จะส่งเรื่องไปยังภูธรจังหวัดมหาสารคาม และหากผลการสอบสวนมีมูล ทางภูธรจังหวัดก็จะตั้งคณะกรรมสอบสวนขึ้นมาอีกชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย” พ.ต.อ.ชัยโรจน์ กล่าวและว่า สำหรับสภาพจิตใจของน้องนักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากการที่ได้พูดคุยกัน สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น แต่ยังคงมีความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย โดยทราบว่านักศึกษาจะขอย้ายออกจากหอพักเดิม เพื่อไปพักที่ใหม่ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ทั้ง 5 นาย ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่น โดยไม่ให้ทำงานด้านงานปราบปรามยาเสพติด โดย 2 นาย ให้ไปเป็นสายตรวจ อีก 2 นาย ให้ไปเป็นชุดมวลชนสัมพันธ์ และอีก 1 นาย ให้ไปเป็นสิบเวร จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
