เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รัชกร โกยกุล อายุ 29 ปี เจ้าของร้านจีบสดอาหารเช้า ในเขตเทศบาลเมืองพังงา พร้อมด้วย น.ส.ภัศรา บุญส่งดี ชาว ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พร้อมเพื่อน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าได้ถูก น.ส.บี (นามสมมุติ) อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองพังงา ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองพังงา ชักชวนผ่านโปรแกรมไลน์ให้นำเงินมาร่วมลงทุน พร้อมเสนอค่าตอบแทนอย่างงาม ทำให้มีคนหลงเชื่อร่วมลงทุนกว่า 30 คน เงินลงทุนมากกว่า 2.5 ล้านบาท โดยช่วงแรกได้รับค่าตอบแทนสม่ำเสมอ แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็ไม่มีการจ่ายค่าตอบแทนและเริ่มติดต่อไม่ได้ พร้อมแจ้งกับคนลงทุนบางคนว่ามีปัญหากับกลุ่มที่เขาได้นำเงินไปลงทุนต่อ ทำให้มีแนวโน้มที่จะถูกฉ้อโกงทั้งเงินที่นำมาลงทุนและค่าตอบแทน จึงมีบางคนต้องรีบรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพังงา และสภ.ตะกั่วทุ่ง
น.ส.รัชกร โกยกุล กล่าวว่า ตนเองได้รับการชักชวนเข้ากลุ่มไลน์วงใหญ่ที่ใช้ในการเล่นแชร์รายเดือนของ น.ส.บี (นามสมมุติ) จากนั้นก็ได้มีการเสนอในกลุ่มให้นำเงินมาร่วมลงทุนในระยะสั้นมีค่าตอบแทนอย่างงดงาม โดยมีการอ้างว่าเป็นการนำเงินไปลงทุนต่อกลุ่มทุนใหญ่ ตนเองก็ได้หลงเชื่อเพราะเขาเป็นทำงานในหน่วยงานราชการและมีเพื่อนๆหลายคนร่วมลงทุนอยู่ด้วย จากนั้นก็เริ่มลงทุนเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งช่วงแรกๆก็จ่ายค่าตอบแทนตามเวลา ทำให้ยิ่งหลงเชื่อนำเงินลงทุนเพิ่มรวมแล้วกว่า 80,000 บาท ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีคนตกเป็นเหยื่อโอนเงินเข้าไปลงทุนอยู่เรื่อยๆจึงอยากจะขอเตือนว่า ถ้ามีการชักชวนลงทุนในลักษณะนี้จากบุคคลกลุ่มนี้ หรือกลุ่มอื่น ขอให้อย่าไปหลงเชื่อ เพราะช่วงแรกจะได้ค่าตอบแทนจริง แต่พอเขาหมุนไม่ทันก็จะถูกโกงแบบนี้ และคาดว่าเขาไม่ได้ทำคนเดียวจะต้องมีแฟนหรือคนอื่นร่วมด้วย อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบดำเนินคดีโดยเร็วก่อนที่เขาจะหลบหนีไปอยู่ที่อื่นเสียก่อน
น.ส.ภัศรา บุญส่งดี เปิดเผยว่า ตนเองได้ถูกชักชวนเมื่อเดือนกันยายนให้เข้ากลุ่มไลน์ชื่อ บ้านถังทอง เพื่อเล่นแชร์รายเดือน และได้ร่วมเล่นแชร์รายเดือน ซึ่งเขาได้ตั้งแชร์หลายวง จากนั้นน.ส.บี(นามสมมุติ) ก็จะชักชวนคนในกลุ่มให้ร่วมนำเงินมาลงทุนในระยะสั้น 7-9 วัน ในกลุ่มแจกดอก ค่าตอบแทน ร้อยละ 10 และลงทุน 3-5 วัน ในกลุ่มรวยทรัพย์ ค่าตอบแทนร้อยละ 10 เช่นกัน ทำให้มีหลายคนหลงเชื่อโอนเงินเข้าร่วมลงทุนกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนเองยังมีเงินลงทุนอยู่อีกประมาณ 30,000 บาท และร่วมเล่นแชร์อีก 2 กลุ่ม ล่าสุดหลังจากที่ตนเองไปแจ้งความดำเนินคดี เขาได้ออกมาแจ้งในกลุ่มว่าแชร์รายเดือนเดินต่อไป ส่วนกลุ่มลงทุนยังเงียบอยู่ แต่คาดว่า คงไม่มีใครกล้าโอนเงินไปให้เขาอีกแล้ว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากผู้ที่กล่าวอ้างว่าเป็นญาติของ น.ส.บี(นามสมมุติ)ว่าให้ยุติการนำเสนอข่าวนี้ โดยอ้างว่าฝ่าย น.ส.บี (นามสมมุติ) ก็ถูกโกงจากการที่นำเงินไปลงทุนต่อเช่นเดียวกัน ซึ่งได้ไปแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงาแล้ว และพร้อมจะเจรจากับกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด หากมีการนำเสนอข่าวให้เป็นเรื่องใหญ่ก็จะไม่มีการเจรจา และจะดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหาทุกคน
ทั้งนี้ ทางผู้สื่อข่าวก็ได้ขอสัมภาษณ์ นส.บี แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง ด้าน พ.ต.ท.เสน่ห์ อุโคตร สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพังงาก็ได้เปิดเผยว่า ในส่วนของน.ส.บีนั้น ได้เข้ามาขอลงบันทึกประจำวันว่าถูกชาวชลบุรีชวนลงทุนและโกงเงินไป ส่วนผู้เสียหายที่กล่าวหา น.ส.บีนั้น จะรีบสอบสวนรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป
