“จัมโบ้”หมาแสนรักถูกยิงตาย บ่อดูดทรายเถื่อนแก้แค้น เหตุไปร้องเรียน ทำตลิ่งทรุด

ขอบคุณภาพจาก น.ส.ประทุมพร จันทร์เมธา

วิ่งโร่แจ้งสื่อคนงานท่าทรายยิง “จัมโบ้” สุนัขแสนรู้ เหตุร้องเรียนท่าทรายเถื่อนคนงานยิงล้างแค้น

วันที่ 31 ธันวาคม 2561 น.ส.ประทุมพร จันทร์เมธา อายุ 37 ปี ชาว หมู่ 10 ต.ถ้ำพรรณรา อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ได้นำภาพถ่ายสุนัข พร้อมหนังสือบันทึกแจ้งความ สภ.ถ้ำพรรณนา จ.นครศรีธรรมราช เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่ สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยระบุว่า คนงานท่าทรายเพชร หรือบ้านหาดเขือ หมู่10 ต.ถ้ำพรรณรา อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ใช้อาวุธปืน ยิง “จัมโบ้” สุนัข เพศผู้ อายุ 2 ปี เสียชีวิต เหตุเกิด เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.ของวันที่ 29 ธ.ค. 2561

น.ส.ประทุมพร กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนกำลังกรีดยางพาราในสวน โดยมี “จัมโบ้”ก็วิ่งเล่นไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งตนได้ยินเสียงปืนดังมาจากทางที่พักคนงานท่าทราย 1 นัด ตนจึงทิ้งมีดพร้อมอุปกรณ์กรีดยางพาราและรีบวิ่งมาดูก็พบเห็น “จัมโบ้” นอนตายจมกองเลือดห่างจากบ้านพักคนงานท่าทรายประมาณไม่ถึง 50 เมตร ตนจึงเข้าไปถามว่าใครเป็นคนยิงเจ้าจัมโบ้ นายดี ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เป็นคนงานท่าทราย ยอมรับว่าเป็นคนยิงและเคยยิงสุนัขทุกตัวที่มาป้วนเปี้ยนบริเวณท่าทรายตายมาหลายตัวแล้ว ตนจึงมีปากเสียงกับนายดี จากนั้นจึงนำซาก “จัมโบ้” ไปแจ้งความกับพักงานสอบสวน สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ก่อนนำ “จัมโบ้” ส่งไปให้สัตว์แพทย์ตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งแพทย์ได้ผ่าหัวกระสุนออกและตนได้นำหัวกระสุนไปมอบให้พนักงานสอบสวนเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยทางพนักงานสอบสวนยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับนายดี ตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา และนัดสอบปากคำตนเพิ่มเติมในวันที่ 1 ม.ค. 2562 นี้

“ยอมรับว่าที่ผ่านมา ตนมีปัญหากับเจ้าของท่าทรายเนื่องจากขุดดูดทรายในลำคลอง ซึ่งไม่แน่ใจว่าได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ หรือ ลักลอบดูดทราย จนทำให้ตลิ่งทรุดพังทลายเข้าไปในพื้นที่สวนยางของตน และชาวบ้านหลายราย จนทางราชการมีการตรวจสอบ แต่ก็เหมือนกับมีการเข้าร่วม ถึงขั้นพยายามเคลียร์ให้ตนยุติเรื่องราว ปัจจุบันได้มีการย้ายจุดดูดทรายไปยังจุดอื่น ๆ ไม่ไกลจากจุดเดิมมากนัก แต่ก็ยังส่งผลกระทบต่อที่ดินสวนยางของตนและชาวบ้านเหมือนเดิม อีกทั้งเป็นต้นเหตุให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากบริเวณที่ดูดทรายจะเป็นแอ่งลึกมากเมื่อฝนตกหนักน้ำจะไหลมารวมกันเอ่อท่วมพื้นข้างเคียงทำให้พื้นที่สวนยางของตนและชาวบ้านซึ่งเป็นดินทรายพังถล่มเสียหายเป็นบริเวณกว้าง”

Advertisement

น.ส.ประทุมพร กล่าว ที่ผ่านมาเจ้าของท่าทรายพยายามที่จะกว้านซื้อที่ดินสวนยางของตนและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเนื่องจากพื้นที่เป็นดินทราย ซึ่งเป็นที่ต้องการของนายทุนเจ้าของกิจการเป็นอย่างมาก แต่ตนไม่ยอมขาย และยังร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ จนสร้างความไม่พอใจให้กับนายทุนเจ้าของกิจการท่าทรายเป็นอย่างมาก จนกระทั่งลูกน้องมาก่อเหตุยิงสุนัขเสียชีวิตดังกล่าว เชื่อว่าเป็นการยิงเพื่อแก้แค้นตนที่ร้องเรียนจนถูกตรวจสอบ

“ตนเดินทางมาที่ สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้ช่วยติดตามคดีขุดดูดทรายในลำคลอง และหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการกระทำทารุณกรรมสัตว์ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตนด้วย รวมทั้งขอให้ติดตามเรื่องที่ ศูนย์ดำรงธรรม กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรชายฝั่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ดำเนินการตรวจสอบท่าทรายแห่งนี้ว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ไม่อยากให้เรื่องเงียบไปอีก เพราะตนและชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว” น.สประทุมพร จันทร์เมธา กล่าวย้ำ

พ.ต.อ.ประวิทย์ เขียวไสว ผกก.สภ. ถ้ำพรรณรา กล่าวว่า ร้อยเวร ได้แจ้งเป็นการเบื้องต้นแล้ว ทราบว่าผู้เสียหายไม่ยอม ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการลงมือยิงสุนัขเพื่อแก้แค้นหรือไม่ ก็ต้องให้ พงส.เรียกผู้กระทำความผิดมาสอบปากคำก่อน ว่าเกิดเหตุอันใด เท่าที่ทราบวันที่ 1 มกราคม 2562 ทาง พงส.นัดสอบปากคำเพิ่มเติม ขอเวลานิด หากผู้เสียหายไม่สบายใจ เกรงว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัยก็ให้มาแจ้ง จะได้ดูแลความปลอดภัย ซึ่งเรื่องเช่นนี้เราไม่ควรประมาท เราจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย อาวุธปืนที่ใช้ยิงถูกต้องหรือไม่ ก็ต้องมาว่ากันตามกระบวนการของกฎหมาย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image