ผวจ.สุราษฎร์ธานีตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ คุมโซนเสี่ยงภัย ‘พายุปาบึก’ ช่วยเหลือประชาชน

เมื่อวันที่ 2 มกราคม นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนไปยังทุกอำเภอ และหน่วยงานต่างๆ หลังกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศพายุ “ปาบึก” กำลังเคลื่อนตัวลงอ่าวไทยในวันที่ 2-3 มกราคมนี้ โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ช่วงวันที่ 3–5 มกราคม ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม) ที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อบริหารจัดการและแบ่งโซนรับผิดชอบออกเป็น 4 โซน มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 4 คน เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อมและแจ้งให้ประชาชนทราบสถานการณ์ พื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ไชยา อ.วิภาวดี อ.พนม อ.ชัยบุรี อ.พระแสง อ.เวียงสระ อ.ท่าฉาง อ.คีรีรัฐนิคม อ.เกาะสมุย และ อ.กาญจนดิษฐ์ ส่วนพื้นที่คลื่นลมแรง ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.พุนพิน อ.เมือง อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.เกาะสมุย และ อ.เกาะพะงัน

“ให้หน่วยทหาร มทบ.45 หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 กองบิน 7 เตรียมเครื่องมือ ยุทโธปกรณ์ และกำลังพล ศูนย์ ปภ.เขต 11 เตรียมเครื่องจักรกล เรือท้องแบน รถยกสูงพร้อมช่วยอพยพผู้ประสบภัย รถไฟฟ้าส่องสว่าง และส่งเครื่องสูบน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำท่วมขัง ไปติดตั้งพื้นที่เสี่ยงที่ อ.เกาะสมุย และให้โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี พร่องน้ำในคลองสายหลักในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.ไชยา พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ ติดตั้งประตูระบายน้ำที่คลองท่าโพธิ์ คลองไชยา อ.ไชยา แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานี ที่ 1, 2, 3 แขวงทางหลวงชนบทสุราษฎร์ธานี เตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักรกล ป้ายเตือนเส้นทางน้ำท่วม” นายวิชวุทย์ กล่าว

Advertisement

นายวิชวุทย์ กล่าวอีกว่า ให้เจ้าท่าภูมิภาคทุกสาขา ควบคุมการเดินเรืออย่างใกล้ชิด เรือสปีดโบ้ท เรือประมง เรือโดยสาร เรือเฟอร์รี่ เดินเรือด้วยความระมัดระวัง สำหรับเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ และให้อุทยานทุกแห่ง หรือสถานที่ท่องเที่ยวเป็นน้ำตก ถ้ำ ให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ถ้าสถานการณ์วิกฤตให้ดำเนินการปิดหรือห้ามเข้าโดยเด็ดขาด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image