ปาบึก-เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 มกราคม ได้เกิดลมกระโชกแรงเป็นระยะๆในเขตพื้นที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราชส่งผลทำให้บ้านเรือน ประชาชนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้รับความเสียหายหลายจุด เสาไฟฟ้าในเขต อ.เมือง เชื่อมต่อไปยัง อ.ปากพนัง กว่า 20 ต้น ล้มระเนระนาดบนถนน ขณะที่ศูนย์บรรเทาและสาธารณภัย เขตถนนพัฒนาการคูขวาง อ.เมือง ซึ่งเป็นศูนย์ปฎิบัติการให้ความช่วยเหลือในเขตเมือง ลมได้พัดหลังคาปลิวว่อนทั้งหลัง เจ้าหน้าที่จึงเร่งขับรถดับเพลิงออกจากที่เกิดเหตุ
ขณะที่ทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดย นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้สั่งเปิดศูนย์อพยพชั่วคราว ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยใช้โรงเรียนในสังกัดเทศบาลทั้ง 10 โรงเรียน เป็นศูนย์อพยพชั่วคราว ประกอบด้วย 1. โรงเรียนนานาชาติเทศบาลนครนครศรีธรรมราช 2. โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ 3. โรงเรียนเทศบาลวัดท้าวโคตร 4. โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง 5. โรงเรียนเทศบาลวัดเสาธงทอง 6. โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ 7. โรงเรียนเทศบาลวัดศาลามีชัย 8. โรงเรียนเทศบาลวัดศรีทวี 9. โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก 10. โรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่ 11. หอประชุมเมือง เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ( ทุ่งท่าลาด ) และได้ความอนุเคราะห์ เปิดศูนย์อพยพชั่วคราวจาก โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ตึกอายุรกรรมเก่าชั้น 2-3 ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หรือได้รับความเดือดร้อนสามารถย้ายเข้าศูนย์อพยพชั่วคราวดังกล่าวได้ และโทรขอความช่วยเหลือได้ดังนี้ สถานีดับเพลงศูนย์เทศบาล 075-348118 หรือโทรสายด่วน 199 สถานีดับเพลิงศูนย์คูขวาง 075-342883 สถานีดับเพลิงศูนย์วัดเพชรจริก 075-357399 สถานีดับเพลิงศูนย์เบญจมฯ 075-447054 ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนเส้นทางสายหลัก ทางสถานีตำรวจทางหลวงที่ 4 กก.7 บก.ทล. นครศรีธรรมราช ได้รับการประสานจาก
พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.สิชล จ.นศ. ว่าช่วงเวลา 14.00-15.00 น.ของวันที่ 4 มกราคม 2562 จะทำการปิดถนน ทล.401 ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง ที่ กม.214 เขตรอยต่อ อ.ขนอม – สิชล จ.นศ. เพราะกลัวว่า รถจะต้านแรงลมไม่ไหว อาจเกิดอุบัติเหตุได้
มีรายงานข่าวว่า ร้านสะดวกซื้อในเขตพื้นที่ อ.ปากพนัง ขนมประเภทขนมปัง ขายเกลี้ยงแผง และทาง พนักงานแจ้งว่าจะมาอีกในเวลา 14.00 น.ของ วันนี้เช่นกัน
ที่ อ. หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช มีรายงานข่าวว่า ที่บริเวณศูนย์อพยพชั่วคราวที่ รร.หัวไทรเรือนประชาบาล ถูกลมฝนพัดหลังคาเปิดปลิวว่อน ชาวบ้านที่อยู่กว่า 100 ชีวิต ต่างตกใจหอบข้าวของ อพยพไปอยู่อีกอาคารหนึ่งได้อย่างปลอดภัย
