โรงเรียนชายฝั่งสงขลากว่า 100 แห่ง เข้าสู่ภาวะปกติ เรือประมงออกหาปลา คาดอาหารทะเลแพง

วันที่ 7 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงได้รับผลบกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึก เกือบ 200 แห่ง ที่อยู่ในสังกัด สพป.สงขลา เขต 1 และ สพป.สงขลา เขต 3 ที่ตั้งอยู่ใน อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ อ.สิงหนคร อ.จะนะ อ.เทพา และ อ.เมือง กลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติอีกครั้ง หลังจากที่ต้องหยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม โดยโรงเรียนทุกแห่งมีแผนจะทำการเรียนการสอนชดเชย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อนักเรียน

สำหรับบรรยากาศที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงใหม่ จ.สงขลา เรือประมงพาณิชย์ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่นับร้อยลำที่จอดอยู่ที่บริเวณท่าจอดเรือ เตรียมพร้อมออกเรืออีกครั้งเช่นกัน โดยได้เข้าคิวทยอยกันลงน้ำแข็งที่บริเวณท่าโม่น้ำแข็ง เตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือทำการประมงทั้งอวน น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำจืด และเสบียงอาหารลงเรือ

Advertisement

ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก รายงานว่า สภาพอากาศวันที่ 7 มกราคม มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

Advertisement

นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมง จ.สงขลา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อนปาบึกทำให้เรือประมงโชคนิรันทร์ สมาชิกสมาคมฯได้รับความเสียหาย 1 ลำ ลูกเรือสูญหาย 1 คน เสียชีวิต 1 คน ขณะที่คลื่นลมในอ่าวไทยยังแรง เรือประมงประมาณ 200 ลำ ยังจอดหลบคลื่นที่หัวแหลมปัตตานี ส่งผลให้ตลาดขาดแคลนสัตว์น้ำ แต่โรงงานแปรรูปอาหารทะเลได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากโรงงานส่วนใหญ่นำเข้าสัตว์น้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน

ทางด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานกรรมการบริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนลฯ จ.สงขลา โรงงานแปรรูปอาหารทะเลรายใหญ่ กล่าวว่า อิทธิพลพายุปาบึก ส่งผลกระทบตลาดอาหารทะเลมาก เรือประมงหยุดทำการประมงเป็นเวลา 8 วัน ทำให้ราคาสัตว์น้ำสูงขึ้น เสี่ยงกับการขาดแคลน ส่วนโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปกระทบน้อยเนื่องจากใช้วัตถุดิบจากต่างประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image