ผบ.ทร.ต้อนรับ-ขึ้นระวาง ‘เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช’ เรือฟริเกตลำใหม่ เสริมเขี้ยวเล็บราชนาวีไทย

เมื่อเวลา 16.50น. วันที่ 7 มกราคม 2562 ที่ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานพิธีต้อนรับและขึ้นระวางเรือประจำการ เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือฟริเกตสมรรถนะสูงที่ต่อจากสาธารณรัฐเกาหลี เดินทางกลับมายังประเทศไทยแล่นเข้าเทียบท่าประเทศไทยครั้งแรก พร้อมคล้องพวงมาลัย ให้นาวาเอก สมิทนัท คุณวัฒน์ ผู้บังคับการเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดชคนแรก ที่นำเรือหลวงและกำลังประจำเรือ 141 นายกลับมายังประเทศไทยโดยปลอดภัย โดยมีพลเรือเอกนพดล สุภากร ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ พร้อมคณะนายทหาร กำลังพล ตลอดจนครอบครัวกำลังพลชุดรับเรือมารอให้ต้อนรับจำนวนมาก
ทั้งนี้ กองทัพเรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร โปรดเกล้าฯ โปรดกระหม่อม พระราชทานชื่อเรือลำนี้ว่า เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช อันเป็นพระนามของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมีความหมายของ ภูมิพล หมายถึง “พลังแห่งแผ่นดิน” อดุลยเดช หมายถึง “อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้” ครั้งนี้ นับเป็นสิริมงคลและยังความปลาบปลื้มมาสู่กองทัพเรือและกำลังพลทุกคนอย่างหาที่สุดมิได้ สำหรับเรือฟริเกตลำนี้ เป็นเรือฟริเกตสมรรถนะสูงเทียบเท่าชั้นเรือพิฆาตที่มีการออกแบบให้ตรงความต้องการของกองทัพเรือตามแนวทางการจัดหายุทโธปกรณ์หลัก ภายใต้ยุทธศาสตร์กองทัพเรือ พุทธศักราช 2551 – 2560 แบบของเรือจึงได้รับการพัฒนามาจากแบบเรือพิฆาต ชั้น Kwanggaeto Class Destroyer (KDX-I) และสร้างโดยใช้มาตรฐานทางทหารของสหรัฐฯ และกองทัพเรือเกาหลีใต้ จึงถือได้ว่าเป็นเรือฟริเกตที่มีความทันสมัย มีคุณค่าทางยุทธการสูงซึ่งจะเป็นกำลังรบทางเรือที่สำคัญตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือดังกล่าวผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2556 กองทัพเรือได้ลงนามกับบริษัท Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering CO., LTD. (DSME) จำกัด สาธารณรัฐเกาหลี สร้างเรือฟริเกตที่มีโครงสร้างเรือแข็งแรงมีโอกาสอยู่รอดสูงในสภาพแวดล้อมของการสู้รบและการปนเปื้อนทางนิวเคลียร์ เคมี ชีวะ ทนทะเลได้ถึงสภาวะทะเลระดับ 6 ขึ้นไป พร้อมระบบ อุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีระวางขับน้ำสูงสุด 3700 ตัน ความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง 30 น็อต ระยะปฏิบัติการประมาณ 4,000 ไมล์ทะเล กำลังพล 141 นาย ในวงเงิน 14,600 ล้านบาท กำหนดส่งมอบเรือใน 1,963 วัน หรือภายใน 22 ธันวาคม 2561 ออกแบบเรือโดยใช้ Stealth Technology สามารถปฏิบัติการรบได้ 3 มิติ

ได้แก่ การปฏิบัติการสงครามใต้น้ำ สามารถตรวจจับเป้าหมายระยะไกลด้วยโซนาร์ลากท้ายและโซนาร์ติดใต้ท้องเรือ แล้วต่อตีเรือดำน้ำด้วยตอร์ปิโด และอาวุธระยะไกล การปฏิบัติการสงครามต่อต้านภัยทางอากาศ โดยเรือจะเข้าประจำการที่ กองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ และจะได้ขอพระราชทานขอพระมหากรุณาธิคุณให้มีพิธีขึ้นระวางเรือ และเจิมเรือขึ้นอีกครั้งในห้วงระยะเวลาที่เหมาะสมต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image