‘ฉก.พญาเสือ’ บุกตรวจ 4 รีสอร์ต อ้างทำกินก่อนประกาศเขตอุทยานฯแก่งกระจาน พบเอกสารมีพิรุธ

”ฉก.พญาเสือ”สนธิกำลังบุกเข้าตรวจสอบรีสอร์ท 4 แห่งที่บ้านน้ำทรัพย์ อ.แก่งกระจาน บุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ้างทำกินมาก่อนประกาศเขตอุทยานฯ แต่พบพิรุธเอกสารไม่ตรง และหลักฐานดาวเทียมไม่พบเป็นพื้นที่ทำกินมาก่อนตามอ้าง

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 มกราคม หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า นำโดย นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกไทรโยค รักษาการหัวหน้าหน่วย ฉก.พญาเสือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.แก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ บก.ปทส.จ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.เพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ที่ 144 สนธิกำลังร่วมตรวจสอบที่ดินบริเวณบ้านน้ำทรัพย์ หมู่ 9 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเขตป่าสงวนยางน้ำกลัดเหนือ-ป่ายางน้ำกลัดใต้ หลังมีการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวอาจมีการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติ การรุกขยายพื้นที่จนติดอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน จนพัฒนาเป็นรีสอร์ตและโฮมสเตย์ให้บริการนักท่องเที่ยว

จากการตรวจสอบในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พบว่า เป็นที่ตั้งของรีสอร์ตรวม 4 แห่ง ได้แก่ ชวนโฮมสเตย์ ซึ่งมีนายบุญแรม รอดภัย อายุ 52 ปี กับนายวินัย สระทองห้อย อายุ 73 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของ รวมเนื้อที่ 7 ไร่ และไร่อิงแก่ง ที่มีนายสุเนตร พุ่มพวง อายุ 76 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของมีเนื้อที่ 2 ไร่ และแก่งธาร-ภูแพรว มีนายธัญธร วงศ์ไพบูลย์ อายุ 27 ปี เนื้อที่รวม 5 ไร่ แสดงตัวเป็นเจ้าของ โดยทั้ง 4 แห่ง มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างหลายรายการ อาทิ บ้านพัก เรือนรับรอง แพให้บริการนักท่องเที่ยวริมน้ำ โดยทิศเหนือจดภูเขา ทิศใต้จดอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน

Advertisement

เบื้องต้น ผู้ครอบครองให้การว่า ได้อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2516 ซึ่งก่อนประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ และเป็นพื้นที่ที่ครอบครองทำประโยชน์มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้ามาทำการสำรวจให้สิทธิทำกิน (สทก.) ที่ดำเนินการโดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี แต่มีข้อพิรุธว่า ในใบสำรวจไม่ระบุตำแหน่งที่ชัดเจนและจำนวนพื้นที่ว่ามีปริมาณเท่าใด อีกทั้งตำแหน่งที่ตรวจสอบก็ไม่ตรงกับเอกสารที่นำมากล่าวอ้าง และพิกัดที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจพบพบว่าอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อีกทั้งจากการตรวจสอบกับภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลังหลายชั้นปี ไม่พบว่ามีการใช้ประโยชน์ตามกล่าวอ้าง แต่พบมีการบุกรุกพื้นที่ในภายหลัง

หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะประสานกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี กรมป่าไม้ นำเอกสารที่เกี่ยวข้องตรวจสอบร่วมกันเพื่อสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิทธิในการครอบครองที่ดิน หรือ กรรมสิทธิ์อื่นใดในที่ดินดังกล่าว หากพบเป็นการบุกรุกพื้นที่โดยไม่มีเอกสารอ้างอิงใดๆ จะดำเนินการตรวจยึดดำเนินคดีต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image