ตั้งรางวัลนำจับ ไฮโซหลอกขายนาฬิกาหรู โกงเจ้าของเต็นท์รถเสียหายกว่า 40 ล้านบาท

ตั้งรางวัลนำจับไฮโซหลอกขายนาฬิกาหรูมูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 มกราคม นายนวพร รัตนวิชัย อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจเต้นท์รถ และเพื่อนธุรกิจอีก 5 ราย รวมตัวกันตั้งรางวัลนำจับไฮโซปลอมหลอกขายนาฬิกาหรู หลังจากที่ได้เคยมาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวปทุมธานีเมื่อปลายปีที่แล้ว และได้แจ้งความจับกลุ่มมิจฉาชีพเป็นหญิงไฮโซ 3 คน หลอกขายนาฬิกาหรูแบนด์ดังผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีพฤติกรรมหว่านล้อมให้หลงเชื่อในช่วงแรกๆ จะซื้อขายกันได้ปกติและรวดเร็วแต่เมื่อสั่งซื้อล๊อตใหญ่ที่มีมูลค่ามากจะถูกหลอกและถ่วงเวลาจนไม่ได้สินค้าตามต้องการ โดยมีมูลค่าเสียหายจำนวนมากมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท

นายนวพร รัตนวิชัย กล่าวว่า โดยพฤติกรรมในการกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหา ที่ผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นการหลอกลวงให้หลงเชื่อว่ามีนาฬิกาแบรนด์เนมหรูรุ่นหายากมาจำหน่ายให้ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดอย่างแน่นอน คือ มีการส่งมอบนาฬิกาให้ก่อนหน้าจริง แต่ภายหลังกลับพบว่าเป็นการซื้อนาฬิกาจากผู้ขายในประเทศในราคาที่สูงกว่า แล้วนำมาจำหน่ายให้กับผู้เสียหาย เช่น ซื้อในราคาสี่แสนแล้วนำมาจำหน่ายในราคาสามแสน ตรงนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน พวกตนได้มอบให้กับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว

ทุกครั้งก่อนที่ผู้ต้องหาจะสั่งให้ผู้เสียหายโอนเงินชำระค่านาฬิกา จะแจ้งให้ทราบทางโทรศัพท์หรือไลน์ทุกครั้งว่านาฬิการุ่นที่ผู้เสียหายสั่งซื้อนั้นมีอยู่ที่กลุ่มผู้ต้องหาจริง จำนวนไม่ต่ำกว่าสิบเรือน ซึ่งทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าหากโอนเงินไปแล้วย่อมจะต้องได้รับมอบนาฬิกาจากผู้ต้องหาอย่างแน่นอน แต่พอถึงเวลาส่งมอบกลับไม่ได้รับนาฬิกาและถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา

Advertisement

โดยเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการซื้อขายนาฬิกาธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เป็นการใช้อุบายหลอกลวงให้พวกตนหลงเชื่อ จากนั้นพวกตนและเพื่อนๆก็ได้มีการระดมทุนและโอนเงินไปให้กลุ่มผู้หลอกลวงซึ่งเป็นสาวไฮโซ ภายหลังได้เชิดเงินหนีไปไม่ต่ำกว่า 40 ล้าน จากการตรวจสอบพบว่ามีการถ่ายเททรัพย์สินไปยังกลุ่มคนรักและเครือญาติ และเรื่องนี้มีผู้กระทำความผิดจำนวน 3 ราย มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ทั้งหมดและอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเส้นการเงินและดำเนินการอายัดทรัพย์สินจาก ปปง. ของผู้ที่ได้รับโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิดทุกครั้ง

ภายหลังที่แจ้งความร้องทุกข์แล้ว ศาลได้ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ทางผู้เสียหายได้ติดตามและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมตามหมายจับมาได้ 1 ราย ปัจจุบันศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปในระหว่างการสอบสวน ต่อมาผู้ต้องหาอีก 1 รายได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอยุธยา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งไม่ทราบว่าศาลจะให้ประกันหรือไม่อย่างไร ส่วนผู้ต้องหารายสุดท้ายตามหมายจับนี้ คือ นางสาวศิรฉัตร กิจนธีรนันท์ หรือ แพท อายุ 32 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น ยังคงหลบหนีการจับกุม ดังนั้นหากผู้ใดพบเห็น หรือมีเบาะแสแจ้งให้ทราบจะมีรางวัลนำจับให้เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ติดต่อคุณนวพร โทร.088-6128888

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักธุรกิจอื่นๆอีกจำนวนหลายรายที่ถูกหลอกไม่กล้าออกมาเปิดเผยความจริงที่จะเข้าแจ้งความเพราะอายที่โดนหลอก หวังโดยว่าจะได้เงินคืนจากผู้ต้องหา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image