เมื่อวันที่ 11 มกราคม จากกรณีที่ผู้ปกครองของเด็กหญิงอายุ 12 ปี ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1โรงเรียนวัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท พาลูกสาวเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท โดยแจ้งว่าลูกสาวถูกนายดำรงค์ หรือครูบอล เรืองบุญ อายุ 40 ปี ครูสอนวิชาพละศึกษาของโรงเรียน หลอกพาลูกสาวไปขืนใจล่วงเมิดทางเพศ ถึง 2 ครั้ง แต่ทางโรงเรียนกลับเพิกเฉย ต่อมาวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา เทศบาลวัดสิงห์ หน่วยงานต้นสังกัดได้มีหนังสือคำสั่งพักราชการนายดำรงค์โดยไม่ได้รับเงินเดือนเป็นเวลา 120 วันเพื่อสอบสวนลงโทษทางวินัย และพนักงานสอบสวน สภ.วัดสิงห์ได้ทำสำนวนแยกออกเป็น 2 คดีที่ต่างกรรมต่างวาระให้พนักงานอัยการไปแล้ว1คดี ส่วนคดีที่ 2 จะต้องส่งภายในสัปดาห์นี้
แม่ของเด็กหญิงดังกล่าว เปิดเผยว่า ครูพละได้พยายามติดต่อผ่านญาติของตน โดยเสนอให้เงิน 200,000 บาทเพื่อให้จบเรื่อง ยืนยันว่า “จะไม่รับเงินจากนายดำรงค์ ครูพละฉาวรายนี้แม้แต่สตางค์แดงเดียว เพราะนายดำรงค์ทำร้ายลูกสาวที่จะเป็นตราบาปไปชั่วชีวิต ถึงครอบครัวของตนจะมีฐานะไม่ดี แต่ก็ยืนยันว่า เงินซื้อศักดิ์ศรีความเป็นคนไม่ได้ และที่สำคัญครูไม่ได้มีท่าทีสำนึกต่อความผิดแม้แต่น้อย จึงจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.วัดสิงห์ได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการจังหวัดชัยนาทแล้วโดยคัดค้านการประกันตัวตามหลักมาตรฐานเพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาซึ่งเป็นข้าราชการครูเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ในขณะที่แม่ของน้องเด็กหญิง ม.1 อายุ12ขวบ ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปพบพนักงานอัยการด้วยเช่นกัน เพื่อยื่นฟ้องเอาผิดทางแพ่ง กับนายดำรงค์ ในความผิดทางแพ่ง ซึ่งได้เรียกร้องค่าเสียหายไปคดีละ 200,000 บาทรวม 2 คดี เป็นเงิน 400,000 บาท อีกทั้งพนักงานอัยการนัดให้มาฟังผลคดีและผลการร้องคัดค้านรวมถึงคดีเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ โดยแม่ของน้องม.1 บอกว่าการฟ้องเรียกความเสียหายทางแพ่ง ไม่ได้เป็นการเรียกรับเงินเพื่อจบคดี แต่เป็นการฟ้องร้องเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี ซึ่งสินไหมจากการฟ้องร้องไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็คงชดเชยกับความเจ็บปวดของน้องและครอบครัวไม่ได้
