เศร้า! พังใบตอง ลูกช้างป่าที่ถูกบ่วงรัดขาตายแล้ว หลังสวนนงนุชช่วยรักษาเกือบ 1 เดือน

พังใบตองหรือพังฟ้าใส ลูกช้างป่าตัวเมียอายุ 1 เดือนเศษติดบ่วงรัด จนขาเน่าตายแล้ว หลังสัตวแพทย์ กรมอุทยานฯและทีมสัตวแพทย์จากสวนนงนุช รับมารักษาดูแลเกือบ 1 เดือน สาเหตุคาดภาวะเลือดเป็นกรด เตรียมฝังร่างที่เขาชีโอน สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง

เมื่อวันที่ 11 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พังใบตองหรือพังฟ้าใส ได้ตาย เมื่อเวลา 15.15 น. โดยทางคุณพัทธนันท์ ขันติสุขพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป สวนนงนุชพัทยา ได้นิมนต์ระครูเกษมกิตติโสภณ (อาจารย์จ่อย) เจ้าอาวาสวัดสามัคคีบรรพต มาสวดบังสกุลศพช้างพังใบตอง ก่อนที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์(สบอ.)ที่ 2 ศรีราชา กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยคณะสัตวแพทย์ได้นำไปผ่าพิสูจน์การ ตายที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยนำเครื่องในส่วนต่างๆไปพิสูจน์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตก่อนนำศพฝังไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง ส่วนผลต้องรอการตรวจพิสูจน์อีกครั้ง

สืบเนื่องมาจากสัตวแพทย์หญิงณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ประจำ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รักษาลูกช้างป่าตัวเมียอายุประมาณ 1 เดือนพลัดหลงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน โดยมีบาดแผลโดนบ่วงรัดบริเวณขาหน้าข้างซ้าย ใกล้กับหน่วยพิทักษ์ป่าสีระมัน อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.61 ก่อนในวันที่ 24 ธ.ค.2561 ได้ประสานมายังนายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา เพื่อส่งตัวเข้าดูแลที่สวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี ต่อเนื่องจากทางสวนนงนุช มีทีมสัตว์แพทย์ และเครื่องมือในการรักษาครบถ้วน ประกอบกับมีแม่ช้างเลี้ยงที่เพิ่งจะคลอดลูก เพื่อสุขภาพของลูกสัตว์ที่ดีควรได้รับนมจากแม่ช้าง โดยท่ามกลางการเอาใจใส่ของทีมสัตวแพทย์เป็นอย่างดี ทั้งการรักษาแผลติดเชื้อ และบำบัดทางจิตใจ ที่ผ่านมาสัตวแพทย์ที่รักษาได้ตั้งชื่อเรียกชื่อว่าพังใบตอง และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นพังฟ้าใส หลังจากอาการเริ่มดีขึ้น

Advertisement

ก่อนในวันนี้เมื่อ เวลา 15.15 น. ช้างพังได้ล้มลงและตาย ซึ่งทุกคนในทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ ที่ร่วมดูแลได้พยายามเต็มที่แล้ว โดยพบว่าตอนประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 10 ม.ค. อาการเริ่มทรุดลง ไม่มีแรง ต่างจากเมื่อตอนกลางวัน ยังเล่นดีๆ อาการค่อนข้างน่าเป็นห่วง ตรวจเลือดพบ ค่าตับไต ค่าเม็ดเลือดขาว อยู่ในเกณ์ปกติ แต่ค่าบลัดแก๊ส โซเดียมไบคาร์บอเนตน้อยมาก และเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ต้องให้น้ำเกลือ ให้ยา ให้ออกซิเจนช่วยพยุงสภาพ โดยมีทีมสัตวแพทย์ และควาญผู้ช่วยฯ ผลัดกันอยู่เฝ้าเวรกันตลอด 24 ชั่วโมง อย่างต่อเนื่องกัน กระทั่งวันนี้ ได้ล้มตายลงท่ามกลางความเสียใจของทีมเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลมาตลอด 1 เดือน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image