รวบหนุ่มไต้หวัน-จีน แก๊งปลอมบัตรเครดิตดอดเข้าไทยหลังใช้รูดซื้อสินค้าในลาวเสียหายหลายล้าน

เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง หัวหน้าศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภ.จว.ชลบุรี (ศปชก.) พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายเชง หงเฉิน (Mr.Chen Hung Cheng) อายุ 27 ปี สัญชาติไต้หวัน กับนายหวัง ฟูห้วย (Mr.Wang Fuhui) อายุ 30 ปี สัญชาติจีน สองผู้ต้องหาแก๊งปลอมบัตรเครดิตข้ามชาติ พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมจำนวน 17 ใบ คอมพิวเตอร์จำนวน 3 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ข้อมูลในแถบแม่เหล็กที่อ่านแปลออกมาเป็นตัวเลขรหัสของบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม 1 แผ่น และเงินสดจำนวน 15,000 บาท

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชาวจีนจำนวน 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายเชง หงเฉิน กับนายหวัง ฟูห้วย ซึ่งเป็นสมาชิกแก๊งปลอมบัตรเครดิตข้ามชาติ เดินทางเข้ามาปฏิบัติการในประเทศไทย และพักอาศัยอยู่ในเขตเมืองพัทยา ภายหลังจึงออกสืบสวนหาข่าวและเก็บข้อมูลหลักฐาน ก่อนขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายค้น 3 หมาย (ที่ ค.4/2562, ค.5/2562 และ ค.6/2562) ลงวันที่ 11 ม.ค.62 เดินทางไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 402/24, 402/26 และ 402/27 หมู่บ้าน Sea Gull Village ย่านชายหาดจอมเทียน แต่ระหว่างทางพบนายเชง หงเฉิน กับนายหวัง ฟูห้วย ยืนอยู่หน้าโรงแรม ที.เจ.รีสอร์ท ใกล้เคียงหมู่บ้านเป้าหมาย จึงได้แสดงตัวเป็นตำรวจและขอตรวจค้น พบของกลางบัตรเครดิตปลอม 1 ใบ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ จากนั้นจึงคุมตัวทั้งสองคนไปตรวจค้นที่บ้านเช่า พบบัตรเครดิตปลอมอีก 16 ใบ รวมถึงของกลางอื่นๆ ข้างต้นหลายรายการ

จากการสอบปากคำนายเชง หงเฉิน ให้การรับสารภาพว่า บัตรเครดิตปลอมที่พบเป็นของนายเหวิน ปิง สัญชาติลาว ซึ่งเป็นคนที่ว่าจ้างให้ตนนำบัตรเครดิตปลอมจาก สปป.ลาว ข้ามฝั่งมายังประเทศไทย ก่อนนำบัตรมาให้เจ้าของเครื่องรูดบัตรเพื่อรูดซื้อสินค้าแบรนด์เนม อาทิ โทรศัพท์มือถือ และเครื่องประดับ (ไม่ยอมบอกว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน) ก่อนนำไปแปรเป็นเงินสดแล้วโอนเข้าบัญชีธนาคารไปให้นายเหวิน ปิง ที่ สปป.ลาว โดยตนเองจะได้รับส่วนแบ่งจำนวน 3 เปอร์เซ็นต์จากเงินที่ได้ทั้งหมด เคยทำยอดจนได้เงินเปอร์เซ็นต์สูงสุดถึง 1 แสนบาท และทำมาแล้ว 3-4 ปี

ด้านนายหวัง ฟูห้วย ผู้ต้องหาอีกรายรับสารภาพว่า ตนเองทำหน้าที่คอยหาข้อมูลในบัตรเครดิตของธนาคารใน สปป.ลาว ก่อนนำไปให้นายเหวิน ปิง โดยจะได้ส่วนแบ่งเป็นเงิน 1-2 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมด และเพิ่งจะทำได้แค่เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาเคยได้รับส่วนแบ่งสูงสุดเป็นเงิน 75,000 บาท

Advertisement

พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ในระยะเวลา 3-4 ปี ที่ผู้ต้องหารายแรกใช้บัตรเครดิตปลอมรูดซื้อสินค้ามูลค่าหลายล้านบาท ซึ่งทำการรูดในประเทศลาวซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นชาวลาว แต่ที่เดินทางมาในเมืองไทยนั้นแค่มาทำการปลอมแปลงและใส่ข้อมูล ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยอมรับว่าไม่กล้าทำในประเทศไทยโดยเฉพาะเมืองพัทยา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองพัทยามีการป้องกันและจับกุมโดยการสนธิกำลังกับตำรวจศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภ.จว.ชลบุรี ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมขึ้นมาทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนแก้ไขด้วยประการใดๆ ในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่แท้จริง , ร่วมกันใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้นมา” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี นอกจากนี้ จะได้ประสานทางการ สปป.ลาว เพื่อส่งข้อมูลคดีนี้ให้ทราบต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image