รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาว่า คลื่นลมแรงในอ่าวไทย ในระยะนี้ ได้ซัดซากปลาวาฬมาเกยในชายฝั่งบริเวณหาดสมิหลา อำเภอเมืองสงขลา ซึ่งปลาอยู่ในสภาพตายมาแล้วหลายวัน มีกลิ่นเน่าเหม็น เจ้าหน้าที่จาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ได้ร่วมกันทำการผ่าพิสูจน์ซากปลาวาฬเพื่อหาสาเหตุการตาย
เบื้องต้นนั้นทราบว่าเป็นปลาวาฬโอมูระ ยังไม่ทราบเพศ เนื่องจากซากวาฬเน่าเปื่อย คาดว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ ความยาว 5.9 เมตร อยู่ในสภาพผอมโซ เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำการเก็บเนื้อเยื่อ ผ่าพิสูจน์กระเพาะอาหาร เพื่อหาสาเหตุการตาย เบื้องต้นนั้นคาดว่าตายเนื่องจากป่วย โดยสภาพภายนอกบริเวณผิวหนังไม่พบร่องรอยการบาดเจ็บอย่างอื่น
นอกจากนั้นในเวลาใกล้เคียงยังยังพบซากปลาวาฬลอยมาเกยตื้น บริเวณชายหาดในพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลปากแตระ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ซึ่งอยู่ห่างจากชายหาดสมิหลาประมาณ 100 กิโลเมตร เบื้องต้นทราบว่าเป็น ปลาวาฬบลูด้า เจ้าหน้าที่จะได้เร่งทำการผ่าพิสูจน์ซากต่อไป
นายสุเทพ เจือละออง ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง กล่าวว่า ปลาวาฬทั้ง 2 ชนิดนั้น มีพื้นที่อาศัยอยู่บริเวณน่านน้ำสากล รอยต่อน่านน้ำไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย สันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจจะป่วย ทำให้ตาย แต่ก่อนที่จะป่วยจะมีปัญหาเรื่องใดมาก่อน คงต้องรอผลการผ่าพิสูจน์ซากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ โดยในขณะนี้คลื่นลมแรงพัดเข้ามาที่ชายฝั่งจังหวัดสงขลา ทำให้ปลาวาฬทั้ง 2 ตัว ถูกพัดมาเกยตื้นที่ชายฝั่งของจังหวัดสงขลา
