น้องเหยื่อกระสุน ‘ปุ๊ 5 ศพ’ ลั่น ไม่ต้องขอโทษ ขอ ตร.ดำเนินคดีตามกฎหมาย ประหารได้ก็ดี

“สุพัตรา กิ่งแก้ว” น้องสาวรอดชีวิตจาก “เขยคลั่ง” ฆ่ายกครัว 5 ศพ เผย พ่อและพี่สาวไม่เคยพูด “อยากได้ให้ไปฟ้อง” ลั่น ไม่อยากให้ “ปุ๊” มาขอโทษ ไม่อยากเจอ ประหารชีวิตได้ก็ดี

ความคืบหน้ากรณีนายธีรพล ปิ่นอมร หรือปุ๊ อายุ 37 ปี ชาว ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ใช้อาวุธปืนพกแบบสั้นขนาด 9 มม. ยิงคนในครอบครัวของนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ภรรยา จนมีผู้เสียชีวิต 5 ราย ประกอบด้วย นายวิรัตน์ กิ่งแก้ว อายุ 46 ปี พ่อตา นางน้ำผึ้ง อินทร์สิทธิ์ แม่ยาย นางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ภรรยาของนายวีรพล นางน้ำผา อินทร์สิทธิ์ พี่สาวฝาแฝดของแม่ยาย และนางกนกวรรณ อินทร์สิทธิ์ พี่สาวของแม่ยาย เหตุเกิดที่ ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เมื่อค่ำวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา หลังก่อเหตุนายธีรพลขับรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี สีขาว หมายเลขทะเบียน กล 4561 พิษณุโลก หลบหนีไป และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร จ.ระนอง รวบตัวได้เมื่อช่วงสายวันที่ 15 มกราคม ที่ จ.ระนอง ขณะกำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทำการฌาปนกิจศพแล้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 18 มกราคม น.ส.สุพัตรา กิ่งแก้ว น้องสาวนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว หรืออ้อม กล่าวว่า วันเกิดเหตุที่นายธีรพลยิงพ่อและพี่สาวเสียชีวิตนั้น ตนกำลังปลูกต้นไม้อยู่หลังบ้านกับแฟนและลูกสาว เห็นพ่อกับพี่สาวขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา ขณะเดียวกันนายธีรพลก็ขับรถเก๋งสีขาวตามมา ได้ยินเสียงนายธีรพลง้อพี่สาว บอกให้ขึ้นรถไปด้วยกัน แต่พี่สาวไม่ยอมไป เนื่องจากรู้ดีว่านายธีรพลเสพยาบ้ามา และพี่สาวก็บอกด้วยว่า บอกกี่ครั้งแล้ว ให้โอกาสกี่ครั้งแล้ว พ่อเองก็พูดว่าให้โอกาสมากี่ครั้งแล้ว ทั้งที่พ่อไม่เคยด่าใคร นายธีรพลจึงเปลี่ยนเรื่องคุย พร้อมเอาเอกสารอะไรไม่ทราบได้มาให้พี่สาวเซ็น พ่อจึงบอกไปว่า หากจะให้เซ็นต้องไปเซ็นที่โรงพัก จากนั้นนายธีรพลก็เอาปืนออกมายิงพ่อและพี่สาวทันที

“การที่นายธีรพลอ้างว่า พ่อบอกว่าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา ซึ่งจริงๆ แล้วทั้งพ่อและพี่สาวไม่เคยพูดประโยคนี้เลย ตนเองก็ยินชัดเจนเพราะอยู่ใกล้ๆ กับพ่อและพี่สาว เมื่อรู้ว่าพ่อและพี่สาวถูกยิงก็วิ่งเข้าไปดูและช่วยพ่อ ไม่เคยใช้จอบที่อยู่ในมือทำร้ายนายธีรพลอย่างที่นายธีรพลกล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่านายเอกราช กำแหง ซึ่งเป็นแฟนตนที่ปลูกต้นหม้อยู่หลังบ้าน เห็นว่านายธีรพลกำลังไล่ยิงตนเอง แฟนจึงนำปืนลูกซองสั้นยิงสวนไปเพื่อป้องกันไม่ให้นายธีรพลยิงตนเองและลูกสาว แม้จะยิงสวนนายธีรพล แต่ไม่โดนนายธีรพล แต่กลับถูกยิงเข้าที่มือขวาด้วยซ้ำไป”

Advertisement

น.ส.สุพัตรากล่าวว่า ก่อนนายธีรพลจะคบกับพี่สาวบอกว่าเป็นทหาร เล่นหุ้น มีบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ไปๆ กลับๆ ตอนนั้นคิดว่าที่ไปๆ กลับๆ คงจะไปทำงาน แต่หลังจากเดือนที่ 4 ผ่านไปแล้วก็ไม่ไปไหนเลย ไม่เคยนอนที่บ้าน แต่ไปนอนที่โรงแรม เคยถามว่าไม่ไปทำงานหรืออย่างไร นายธีรพลบอกว่ามีเลขาและลูกน้องเยอะ เป็นคนที่คุยโวคุยโม้ คุยว่ามีเงินเป็น 100 ล้านบาท ให้เงินคนในครอบครัวครั้งละ 5,000 บาทบ้าง หรือน้อยกว่านี้ เคยให้พ่อ 1,000,000 บาท เพื่อให้สร้างบ้าน เมื่อกลางปีที่ผ่านมาพี่สาวกับนายธีรพลมีกำหนดจะแต่งงานกันวันที่ 12 มกราคมนี้ ที่แต่งงานกันไม่ใช่เพราะพี่สาวท้องและขอยืนยันว่า พี่สาวไม่ได้ท้อง ผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่าไม่ได้ท้อง

“ช่วงแรกๆ ที่นายธีรพลไปๆ กลับๆ นั้น ได้ซื้อรถกระบะมือ 2 ให้ และให้เป็นชื่อพ่อและพี่สาว ตอนนั้นนายธีรพลยังไม่ค่อยพูด มักจะอยู่เงียบๆ ส่วนเรื่องเงิน 20 ล้านบาทที่มีการพูดถึงกันว่านายธีรพลมาขอคืนนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ของที่นายธีรพลเอามาให้นั้นเขาเป็นคนซื้อมาเอง ทะเลาะกันกับพี่สาวทีไรก็จะมาขอคืน รถยนต์จำนวน 8 คันที่ซื้อให้ก็เอาคืนไปหมดแล้ว ลงบันทึกประจำวันไว้ที่รงพักแล้ว แต่กลับไปพูดว่าครอบครัวไม่ยอมคืนให้ พ่อบอกเสมอว่าของที่ให้มาเอาคืนไปให้หมด ไม่เอา ทรัพย์สินทุกอย่างคืนหมดแล้ว เหลือเพียงรถไถนาและรถกระบะอีกคันก็จะคืนให้ สาเหตุที่ทะเลาะกับพี่สาวก็เนื่องมาจากเสพยาบ้า ดื่มเหล้าเบียร์ นอกจากจะทะเลาะกับพี่สาวอยู่บ่อยครั้งแล้ว ยังเป็นคนขี้หึงมาก ผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พี่สาวก็มักจะพูดว่าเป็นชู้บ้าง เป็นเด็กบ้าง ช่วง 1 เดือนก่อนเกิดเหตุ นายธีรพลใช้เข็มขัดรัดคอพี่สาวและซ้อมอย่างรุนแรง เคยลงบันทึกประจำวันที่โรงพักไว้แล้ว ทุกครั้งที่ทะเลาะกับพี่สาวมักจะเกิดขึ้นหลังจากเสพยาบ้า เมาเหล้า นายธีรพลมักจะไปเที่ยวที่ จ.พิษณุโลก เมื่อเสพยามาพี่สาวก็จะจับได้ทุกครั้ง เคยสาบานว่าจะเลิก ตั้งใจบวช 7 วัน แต่บวชอยู่ 3 วันเพื่อเลิกยา สุดท้ายก็กลับมาเสพอีก วันที่ยิงพ่อและพี่สาว พี่สาวอาจจะท้าให้นายธีรพลยิงเองก็เป็นได้ เพราะเคยเอาปืนขู่พี่สาวอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้คิดว่าจะยิง” น.ส.สุพัตรากล่าว

น.ส.สุพัตรากล่าวอีกว่า ชาวบ้านจะรู้กันหมดว่าเขาดื่มเหล้าเบียร์ทั้งวัน ชอบยิงปืนในสวนซึ่งอยู่ห่างไกลจากบ้านประชาชน ตำรวจไม่จับ เพราะไม่มีใครเอาเรื่อง ซึ่งผิดกับตอนแรกที่เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่พูด อยู่นิ่งๆ ครั้งสุดท้ายที่พี่สาวยอมคืนดีด้วยก่อนที่จะมาเกิดเหตุยิงพ่อและพี่สาว เพราะเขาขู่พี่สาวว่าจะยิงทุกคนในครอบครัว พี่สาวกลัวว่าเขาจะทำจริงจึงคืนดีด้วย เพราะไม่อยากให้เขาไปทำร้ายคนในครอบครัว พี่สาวเคยถามพ่อแม่ว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ พ่อแม่ก็ถามไปว่ายังรักเขาหรือไม่ พี่สาวก็บอกว่ายังรัก ครอบครัวก็ไม่ว่าอะไรเพราะลูกยังรักเขาอยู่จึงไม่ว่าอะไร สิ่งที่ครอบครัววิตกคือ ถ้านายธีรพลออกจากคุกมาได้กลัวว่าจะมาทำร้ายครอบครัวอีก สิ่งที่เขาสารภาพว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะครอบครัวของเราเป็นต้นเหตุนั้น นายธีรพลจะพูดอย่างไรก็ได้เพื่อให้พ้นผิด แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตัวของนายธีรพลทั้งนั้น อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ปล่อยให้นายธีรพลรับกรรมของเขา เป็นไปได้อยากให้ประหารชีวิตเลยก็ดี อยากจะบอกพ่อแม่และพี่สาวว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ที่เหลือจะดูแลเอง บ้านที่สร้างไว้เตรียมแต่งงานใครจะทำอะไรก็ทำไป ไม่อยากได้ ส่วนทรัพย์สินที่เหลือจะคืนให้หมด ไม่เก็บไว้ที่บ้าน ไม่เอา ไม่อยากให้นายธีรพลมาขอโทษ ไม่อยากให้มา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image