เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม น.ส.ยุพา จุงสกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้เดินทางมายังวัดแห่งหนึ่งใน ต.สำนักท้อน เพื่อตรวจสอบกรณีที่มีการแชร์ภาพการแชตไลน์และการคุยผ่านวิดีโอคอลที่เป็นภาพของพระสงฆ์รูปหนึ่งที่อยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน โดยพระในรูปมีหน้าตาคล้ายพระมหา “ป” อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ แต่จากการตรวจสอบปรากฏว่าพระมหา “ป” ได้หายตัวออกจากวัดไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ทราบว่าไปไหน รู้แต่เพียงว่ามีพระลูกวัดเจอตัวครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 พ.ค. แต่ในช่วงเช้าก็ไม่มีใครพบแล้วกุฏิก็ล็อกไว้อย่างแน่นหนา
น.ส.ยุพา เปิดเผยว่า หลังจากการตรวจสอบภายในวัด เบื้องต้นไม่พบตัวพระมหา “ป” และก็ไม่ทราบว่าออกจากวัดไปกับใครและไปอย่างไร เพราะยานพาหนะประจำวัดก็ยังอยู่ และจากการสอบถามคนขับรถของวัดก็ไม่ได้ไปส่ง จึงคาดว่าอาจจะมีการให้คนมารับออกจากวัดไปช่วงกลางดึก และก็ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนกรณีที่ภาพที่มีการแชร์ภาพพฤติกรรมที่ผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรง ตนยังไม่ขอพูดและแสดงความคิดเห็นใด แต่ได้มีการแจ้งไปยังเจ้าคณะอำเภอบ้านฉางให้ทราบเรื่องแล้ว และจะมีการรายงานให้กับเจ้าคณะจังหวัดระยองทราบ ก่อนจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
น.ส.ยุพากล่าวว่า ในเบื้องต้นทางคณะกรรมการวัดได้มีการระงับการเบิกจ่ายบัญชีของวัดทุกบัญชี พร้อมทั้งเตรียมตรวจสอบทรัพย์สินของวัดอย่างละเอียดว่ามีทรัพย์สินใดสูญหายไปบ้าง และยังมีการระงับการจัดงานฉลองการจบการศึกษาระดับปริญญาเอกของพระมหา “ป” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17 พ.ค.นี้ และยกเลิกการจัดงานเทศน์มหาชาติที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค.59 นี้ด้วย จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน
ด้านรองเจ้าอาวาสวัด กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะพฤติกรรมที่เห็นมาตลอด 8 ปี ของพระมหา “ป” ที่เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาส สำหรับผู้หญิงที่คุยด้วยนั้นเป็นมารดาของเณรรูปหนึ่งที่บวชอยู่ที่วัดดังกล่าว และเป็นเณรรูปดังกล่าวยอมรับว่าเป็นคนส่งภาพดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่านางฟ้า เพราะไม่พอใจที่ถูกพระมหา “ป” ลงโทษ จึงได้ทำเพื่อแก้แค้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่อยู่ข้างวัดต่างก็งงกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาเห็นแต่ภาพที่อยู่ในวินัย และยังเป็นพระนักพัฒนาจนทำให้วัดเจริญขึ้นจากวัดเล็กๆ จนกลายเป็นวัดที่เจริญขึ้น แต่เมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแรกๆ ชาวบ้านก็ไม่เชื่อ แต่หลังเกิดเหตุพระมหา “ป” กลับหายตัวไปและติดต่อไม่ได้ จึงทำให้ชาวบ้านต่างก็ปลงและเชื่อว่าต้องเป็นจริง
