ความคืบหน้าขบวนรถไฟด่วนพิเศษ (สปินเตอร์) ขบวนที่ 41 กรุงเทพฯ-ยะลา และขบวนที่ 39 กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ชนรถกระบะ ที่มีนางวีรวัลย์ เสมรอด อายุ 34 ปี เป็นคนขับจะไปส่ง ด.ช.มนูญศักดิ์ เสมรอด อายุ 10 ขวบ บุตรชายไปส่งโรงเรียน ที่จุดตัดทางรถไฟบ้านถ้ำเขาชาวาลา-บ้านถ้ำน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ทำให้รถไฟขบวนอื่นขึ้นลงภาคใต้ไม่ได้
เศร้า! รถไฟชนประสานกระบะ พบ ‘แม่-ลูก 10 ขวบ’ เสียชีวิตก่อนถึงโรงเรียน
เมื่อวันที่ 22 มกราคม นายประชารัฐ ชีรวินิจ สารวัตรงานเดินรถ แขวงชุมพร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ส่งเจ้าหน้าที่แผนกช่างกลโยธา แผนกสื่อสารและแผนกการเดินรถ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าหัวเครื่องจักรขบวนรถไฟได้ทับซากรถกระบะเอาไว้ จึงจะต้องใช้รถพิเศษซึ่งประจำการอยู่ที่สถานีรถไฟชุมพรไปดำเนินการยกหัวเครื่องจักรขึ้น เพื่อนำซากรถยนต์ออกมา พร้อมกับตรวจสอบระบบเครื่องจักร ระบบเบรกของรถดีเซลราง ขณะที่ฝ่ายช่างกลโยธาได้ตรวจสอบระบบรางในเบื้องต้น ไม่พบความเสียหาย หากเครื่องจักรไม่มีปัญหา คาดว่าจะสามารถเปิดเดินรถได้ในเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันนี้
นายประชารัฐกล่าวว่า ขณะนี้มีขบวนรถไฟที่ยังไม่สามารถเดินทางได้เพียง 2 ขบวน มีขบวนรถท้องถิ่นชุมพร-หาดใหญ่ และขบวนรถด่วนพิเศษสุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ คาดว่าการกู้ซากรถยนต์จะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ก่อนการเดินรถเที่ยวเย็นนี้
“ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถด่วนพิเศษที่ 41 และ 39 ประมาณ 100 คน การรถไฟฯได้อำนวยความสะดวกด้านอาหารและที่พักชั่วคราว และจะนำผู้โดยสารทั้งหมดสู่สถานีปลายทางเมื่อสามารถเปิดการเดินรถได้ ส่วนผู้โดยสารที่จองตั๋วกับการรถไฟสายใต้โปรดตรวจสอบเวลาการเดินรถกับการรถไฟแห่งประเทศไทยอีกครั้ง” นายประชารัฐกล่าว
