ผบ.หน่วย ฉก.สงขลาแจงคนเมาเข้ามัสยิดดารุลนาอีม(ช่างนุ้ย) ไม่ใช่จะเข้าไปเผา

วันที่ 24 ม.ค.ที่หน่วยเฉพาะกิจสงขลา ต. ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา พล.ต.ต. ไพโรจน์ ทานธรรม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ชี้แจงเหตุกระแสข่าวกรณี อาสาสมัครรักษาดินแดน เข้าไปบริเวณมัสยิดดารุนนาอีม ในอาการมึนเมา และพูดคุยใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ หน่วยเฉพาะกิจสงขลาได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอสะบ้าย้อย สถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย และประชาชน บริเวณมัสยิดดารุลนาอีม (ช่างนุ้ย)

พล.ต.ต.ไพโรจน์ชี้แจงว่าเมื่อเวลา 20.00 น. คืนวันที่ 21 ม.ค.62 นายหมู่เอกสมควร บุญธรรมโม สมาชิกอาสารักษาดินแดนอำเภอสะบ้าย้อย ได้เข้าไปในมัสยิดดารุลนาอีมพบกับพี่น้องมุสลิมประชาชน 4 คน กำลังปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา ด้านนายหมู่เอกสมควรฯ ได้เข้าไปพูดคุยโดยใช้ถ้อยคำไม่สุภาพและกลับออกมา มีพี่น้องมุสลิมที่กำลังปฏิบัติศาสนกิจว่าอยู่ในอาการมึนเมา แต่ไม่ได้กระทำความรุนแรงแต่อย่างใด และไม่ได้มีความประสงค์เพื่อเข้าไปวางเพลิงที่มัสยิดตามที่เป็นกระแสข่าวแต่อย่างใด จึงขอชี้แจงถึงข้อเท็จจริงให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือ และสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม

พ.ต.อ.กองทัพ เสนาทิพย์ ผกก.สะบ้าย้อย กล่าวว่ากรณี นายหมู่เอกสมควร บุญธรรมโม ในส่วนของข้อเท็จจริงที่ได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นร่วมกับทางสงขลา ฝ่ายปกครองอำเภอสะบ้าย้อย ข้อเท็จจริงที่ได้เข้าข่ายเป็นความผิดฐานก่อให้เกิดความวุ่นวายในที่ประชุมของศาสนิกชนเวลาประชุมกันหรือเวลากระทำพิธีกรรมทางศาสนาที่ชอบโดยกฎหมายเป็นความผิดทางอาญา คุณธรรมของกฎหมายข้อนี้ คุ้มครองศาสนาทุกศาสนาคุ้มครองศาสนสถานทุกศาสนา คุ้มครองพิธีกรรมทุกศาสนา ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าไปทำให้เกิดความวุ่นวายในการประกอบพิธีกรรมใดทางศาสนาใดๆ ย่อมต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายเจริญศักดิ์ สงสุวรรณ ปลัดอำเภอสะบ้าย้อย กล่าวว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายหมู่เอกสมควร บุญธรรมโม จากประวัติการทำงานมา 10 ปี ไม่เคยกระทำผิดทางวินัย มีนิสัยเงียบขรึม ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี และทราบว่าในวันดังกล่าว ได้ขออนุญาตหัวหน้าชุดออกไปทำธุระ อย่างไรก็ตามทางอำเภอสะบ้าย้อยจะรวบรวมข้อเท็จจริง จากตำรวจ และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเป็นการกระทำผิดทางวินัย ซึ่งจะเร่งดำเนินการหาข้อเท็จจริงและดำเนินการลงโทษตามการกระทำต่อไป

Advertisement

ด้านนายดาโอ๊ะ โอ๊ะ ผู้นำศาสนาในพื้นที่ กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น การเข้ามาของสมาชิกอาสารักษาดินแดนคนดังกล่าว เข้ามาแบบบุคคลแปลกหน้าอยู่ในอาการมึนเมา พูดจาใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ ไม่ให้เกียรติสถานที่ ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องมุสลิม ส่งผลให้พี่น้องประชาชนเกิดความหวาดระแวงว่าจะมีการก่อกวนสร้างสถานการณ์ในพื้นที่

“ซึ่งจากการพูดคุยและทางเจ้าหน้าที่เข้ามา ทำความเข้าใจชี้แจงกับพี่น้องประชาชน ทางผู้นำศาสนาและประชาชน ทุกคนพร้อมให้อภัย เพราะไม่อยากให้เกิด ความแตกแยก เพราะทั้งพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันมาช้านาน แม้จะแตกต่างในเรื่องของการปฏิบัติศาสนกิจ ขณะนี้ชาวบ้านและผู้นำศาสนามีความพอใจที่ทางเจ้าหน้าที่ออกมารับผิดชอบและดำเนินการต่อ สมาชิกอาสารักษาดินแดนคนดังกล่าว”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image