ไฟไหม้ป่านราฯคาด3วัน จนท.คุมได้ ระดมแบ๊กโฮทำแนวกันไฟ หวั่นพรุโต๊ะแดงเสียหายเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12พ.ค.59 สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับไฟไหม้ป่าในพื้นที่ 8 ตำบล 4 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อำเภอสุไหงปาดี สุไหงโกลก บาเจาะและยี่งอ โดยภาพรวมหลังจากนายเรวัตร จันทนะ ผอ.ส่วนควบคุมไฟป่าพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 จ.สงขลา นั่งเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บินสำรวจในการปรับแผนการทำงานแบบวันต่อวัน เพื่อควบคุมไฟไหม้ป่าให้อยู่ในวงจำกัดในช่วงสายของวันนี้ พบว่า จุดเพลิงไหม้ที่ค่อยข้างรุนแรงจากต้นเพลิงที่คุกรุ่นอยู่ชั้นใต้ดิน ได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้งวานนี้อันเป็นผลพวงของกระแสลมที่พัดแรง มีด้วยกัน 3 จุด คือ บ้านตาเซ๊ะใต้ ม.6 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี บ้านบาโงซรายอ ม.1 และบ้านลูโบ๊ะซามา ม.8 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก ที่มีหัวไฟซึ่งเป็นต้นเพลิงกระจายลุกโชนเป็นหย่อมๆ พร้อมทั้งมีกลุ่มหมอกควันไฟป่าลอยขึ้นสู่บรรยากาศบนท้องฟ้า

ในส่วนของพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้ป่าตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 59 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมหัวไฟที่ไหม้ป่าให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้วบางส่วน ด้วยการใช้รถแบ๊กโฮเบิงทางเป็นแนวกันไฟ พร้อมทั้งได้ขุดเจาะแหล่งน้ำในทุกระยะทาง 200 เมตร ให้ชุดเสือไฟใช้เครื่องสูบน้ำแบบหาบหาม สูบน้ำเข้าไปดับไฟ ส่วนพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ คือ จุดบ้านบาโงซรายอ ม.1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก ที่เจ้าหน้าที่กำลังใช้รถแบ๊กโฮ จำนวน 2 คัน เริ่มต้นเบิกทางเป็นแนวกันไฟจากบ้านซรายอ เพื่อให้มาจรดกับบ้านปอเนาะ ม.7 ต.ปะลุรู ซึ่งมีทางยาว 3 ก.ม. ให้มาบรรจบกันเพื่อทำการล้อมกรอบไฟไหม้ป่าให้จุดนี้ให้อยู่ในวงจำกัด เพื่อลดความสูญเสียพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง โดยแยกเป็นพื้นที่ป่าพรุชั้นนอก 300 ไร่ พื้นที่ป่าพรุชั้นใน 500 ไร่ ในจำนวนนี้เป็นป่าพรุที่สมบูรณ์ถึง 200 ไร่ นอกจากนี้จากการนั่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจของนายเรวัตร จันทนะ ผอ.ส่วนควบคุมไฟป่าพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 จ.สงขลา ยังพบว่ามีไฟไหม้ป่าเพิ่มเติมอีก 1 จุด คือ บ้านโคกชุมบก ม.5 ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ ซึ่งขณะนี้นายสมศักดิ์ สิทธิวรการ นายอำเภอตากใบ ได้ระดมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดับไฟไหม้ป่าในครั้งนี้แล้ว

ด้านนายสิทธิชัย ศักดา ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยว่า โดยภาพรวมเราสามารถควบคุมไฟไหม้ป่าในครั้งนี้ได้แล้ว เหลือเพียงจุดที่บ้านบาโงซรายอ ม.1 ต.ปาเสมัส ที่เจ้าหน้าที่คาดว่าอีกประมาณ 3 วัน สามารถใช้รถแบ๊กโฮเบิกทางเป็นแนวกันไฟเพื่อล้อมกรอบจุดต้นเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ในส่วนที่จะดับไฟให้สนิทนั้นคงต้องรอการทำฝนหลวง ที่สามารถทำให้ฝนตกลงมาตรงจุด รวมทั้งในช่วงสัปดาห์หน้าทางสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.นราธิวาส ได้รายงานว่าให้ทราบว่า จะมีสภาวะฝนตกลงมาในช่วงนั้น คงจะสามารถดับไฟไหม้ป่าให้มอดสนิทลงได้ ซึ่งต้องใช้ปริมาณฝนที่ตกหนักและต่อเนื่องอย่างน้อย 1 วันเต็มๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image