ผู้ว่าฯ วอนสาธุชนอย่าแย่ง ‘ตักน้ำ-ตักอังคาร’ หลังเสร็จสิ้นพิธีฯ

เมื่อวันที่ 29 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) สถานที่ที่ มข.ใช้ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงครูใหญ่และครูใหญ่พระเทพวิทยาคม เป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2561 ยังคงมีพุทธศาสนิกชน คณะศิษยานุศิษย์ รวมไปถึงผู้ที่ให้การเคารพเลื่อมใสศรัทธาในครูใหญ่หลวงพ่อคูณ รวมไปถึงคนในครอบครัวของครูใหญ่ทั้ง 647 ร่าง ยังคงทยอยเดินทางมาวางดอกไม้จันทน์ และกราบลาสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ซึ่งในวันนี้ มข.ได้เปิดอนุญาตให้วางดอกไม้จันทน์ไปจนถึงเวลา 12.00 น.

ขณะที่กำหนดการในงานพระราชทานเพลิงครูใหญ่และครูใหญ่หลวงพ่อคูณในวันนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 06.30 น. พระภิกษุ สามเณร พร้อมทั้งญาติครูใหญ่ทั้ง 647 ร่าง พร้อมกันที่ศูนย์ประชุม เวลา 07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า, เวลา 08.45 น. แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธมฺมธโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เวลา 09.20 น. พิธีสวดมาติกาบังสุกุล และเวลา 10.30 น. ถวายภัตตาหารเพล

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในการดำเนินงานตามขั้นตอนต่างๆ นั้น มข.ได้ประสานการทำงานร่วมกับทางจังหวัดและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้งานพระราชทานเพลิงครูใหญ่และครูใหญ่หลวงพ่อคูณนั้นเป็นไปตามลำดับขั้นตอนและขนบอีสาน ทั้งนี้ หากผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องประการใด ในนามของจังหวัดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ เพราะในการรองรับคนจำนวนมากนั้นต้องมีข้อผิดพลาดในบางเรื่อง แต่ทั้งนี้ในภาพรวมทุกคนและทุกฝ่ายนั้นได้ตั้งใจทำงานเพื่อให้งานออกมาสัมฤทธิผลที่สุด ดังนั้นจึงขอให้สาธุชนที่เดินทางมาร่วมในงานครั้งนี้ ที่วันนี้เป็นวันสำคัญคืองานพระราชทานเพลิงครูใหญ่, ครูใหญ่หลวงพ่อคูณ รวมทั้งการถวายเพลิงครูใหญ่หลวงพ่อคูณที่ณาปนสถานชั่วคราวนั้นใจเย็นๆ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และที่สำคัญคือการได้ปฏิบัติตามพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณอย่างเคร่งครัดที่สุด

“หลังการถวายเพลิงที่ฌาปนสถานฯเสร็จสิ้น ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลา 05.00 น. วันที่ 30 มกราคม   อัฐิธาตุของครูใหญ่หลวงพ่อคูณจะไหลลงสู่โลงสแตนเลสที่อยู่ด้านล่างสุดของเตาเผาทั้งหมด โดยมีบุคคลสำคัญทำหน้าที่ล็อกกุญแจเพื่อนำโลงดังกล่าวไปลอยอังคารที่ จ.หนองคาย ซึ่งขณะนี้คนที่ทำหน้าที่ที่สำคัญนี้ยังไม่เปิดเผยรายชื่อ แต่ผมเองนับเป็นเกียรติสูงสุดของครอบครัวจังตระกุล ที่ได้เป็น 1 ในผู้แทนสาธุชนทั่วทั้งโลกที่ได้จุดไฟถวายเพลิงแด่หลวงพ่อ ในเวลา 22.15 น. ตามขนบอีสานที่ มข.นั้นกำหนด”

Advertisement


ผวจ.ขอนแก่นกล่าวต่อว่า หลังจากการนำโลงสแตนเลสที่บรรจุอัฐิธาตุของครูใหญ่หลวงพ่อคูณจากฌาปนสถานฯไปยัง จ.หนองคายแล้ว เป็นหน้าที่ของ จ.หนองคาย ในการที่จะนำอัฐิธาตุของท่านไปลอยอังคาร ซึ่งขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ นั้น มข.ได้ประสานการทำงานร่วมกันในทุกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งหมด และในช่วงของการนำอัฐิธาตุลงเรือของกองทัพเรือเพื่อไปลอยอังคารลงสู่แม่น้ำโขงตามพินัยกรรมนั้น ตนเองเป็น 1 ในบุคคลที่จะต้องลงเรือลำเดียวกันกับหลวงพ่อ ซึ่งถือเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ที่จะได้ถวายงานท่านจนถึงวาระสุดท้าย และเมื่อได้ลอยอังคารท่านลงสู่แม่น้ำโขงบริเวณพระธาตุกลางน้ำแล้วนั้น คณะจะเดินทางกลับทันที

ในการกันพื้นที่ในน่านน้ำของแม่น้ำโขงเป็นหน้าที่ของ จ.หนองคาย ในการบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกับกองทัพเรือ ตชด.และตำรวจน้ำ ซึ่งหวังว่าจะไม่มีสาธุชนทั้งจากฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้านพยายามที่จะเข้ามาแย่งตักน้ำหรือตักอังคาร หรือข้าวตอกดอกไม้หลังเสร็จสิ้นพิธีการ เพราะนอกจากจะเกิดอันตรายแล้วยังคงจะไม่เป็นการเคารพครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ที่ท่านได้สั่งเสียไว้ในพินัยกรรมและเชื่อมั่นว่าทุกคนจะให้ความเคารพและให้เกียรติหลวงพ่อคูณ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีลูกศิษย์ลูกหารักและเคารพอยู่ทั่วทั้งโลก เพื่อให้ท่านนั้นได้ลอยอังคารลงสู่แม่น้ำโขงตามที่ท่านได้สั่งเสียไว้ในพินัยกรรม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image