เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 มกราคม ชาวบ้านตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางมารวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณด้านหน้าโรงงานผลิตปุ๋ยขนาดใหญ่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 12 ตำบลตะคร้ำเอนเพื่อร้องเรียนกรณีโรงงานปุ๋ยดังกล่าวได้ส่งกลิ่นเหม็นสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่หมู่ 12 ตำบลตะคร้ำเอน และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก
นางทวี หาญกล้า อายุ 54 ปี ชาวบ้านตะคร้ำเอน กล่าวว่า ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากปัญหากลิ่นเหม็น เนื่องจากการผลิตปุ๋ยของโรงงานดังกล่าวมาเป็นเวลานาน ที่ผ่านมาได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่ามะกา และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรีมาแล้วหลายครั้ง เมื่อมีเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบ กลิ่นก็จะหายเหม็นไปประมาณ 1 สัปดาห์ แต่หลังจากนั้นก็จะกลับมาเหม็นเหมือนเดิมอีก ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากวิงวอนขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่มาดูแลแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน พร้อมทั้งสั่งการเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างจริงจัง เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านบางส่วนเริ่มเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่เริ่มมีอาการป่วยรุนแรงมากขึ้น
จากนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย ฝ่ายปกครองอำเภอท่ามะกา ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่ามะกา องค์การบริหารส่วนตำบลตะคร้ำเอน เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.รส.มทบ.17 ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าเรือ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพูดคุยกับชาวบ้าน โดยพบว่าโรงงาน มีการประกอบกิจการที่ส่งกลิ่นเหม็นจริง ซึ่งเป็นกลิ่นเหม็นที่มาจากกากตะกอนอาหาร และเยื่อกระดาษ ที่ทางโรงงานนำเข้ามาเพื่อใช้ในการผลิตปุ๋ย หลังการตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด ได้มีการประสานไปยังเจ้าของโรงงาน ให้เข้ามาพบและพูดคุย โดยมี นางกนิษฐา สิริกุล ผู้จัดการ เป็นตัวแทนโรงงานมาพูดคุย พร้อมทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับทางองค์การบริหารส่วนตำบลตะคร้ำเอน และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อให้ทางโรงงานดำเนินการแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นดังกล่าวให้เรียบร้อยภายใน 15 วัน และไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก แต่หากโรงงานไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลตะคร้ำเอน จะใช้อำนาจสั่งยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของทางโรงงานได้ทันที ประกอบกับจังหวัดกาญจนบุรี มีประกาศ เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการให้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเฉียบขาด
หลังจากชาวบ้านทราบว่าจะมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังจึงยอมสลายตัว และจะติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหานี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปัญหาดังกล่าวที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงนี้ คาดว่าเกิดจากสภาพอากาศในระยะนี้ที่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยในหลายจังหวัด รวมทั้งจังหวัดกาญจนบุรี จึงทำให้ส่งผลกระทบเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ จนหน่วยงานเกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ไข ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนจากช่วงเวลาเดียวกัน พบว่า วานนี้มีสภาพหมอกควันและฝุ่นละออง วัดค่าได้อยู่ที่ 170 AQI ขณะที่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลบ้านเหนือ ซึ่งอยู่กลางใจเมือง สามารถวัดค่าได้ 201 AQI ซึ่งเพิ่มขึ้นจากวานนี้มาก
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด รวมถึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำนันผู้ใหญ่บ้าน สอดส่องดูแลห้ามให้ประชาชน เกษตรกร ทำการจุดไฟเผาซากวัชพืชใดๆ โดยเฉพาะเผาอ้อย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักอย่างเด็ดขาดหากพบให้ทำการจับกุมเปรียบเทียบปรับทันที อีกทั้งให้โรงงานต่างๆ ที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเร่งแก้ไขอย่าให้เกิดฝุ่นละออง หากไม่ดำเนินการแก้ไข อาจจะสั่งให้ทำการปิดโรงงานเหล่านั้นทันที
