ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.ชุมพร ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 25 มกราคม เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าสู่ฝั่งตั้งแต่หาดภราดรภาพ ต.ปากน้ำชุมพร ไปถึงหาดทรายรี ต.หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบร้านอาหารริมหาดทุกร้านต้องปิดบริการ เพราะมีคลื่นขนาดใหญ่สูงประมาณ 3-4 เมตร ซัดเข้าสู่ฝั่งอยู่ตลอดเวลา สร้างความเสียหายให้กับร้านอาหารเกือบทุกร้าน ทำให้ลูกค้าไม่สามารถเข้าไปใช้บริการได้ตามปกติ
นายประจินต์ ธารศิริสิน นายอำเภอเมืองชุมพร เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า มีพื้นที่ใน อ.เมืองชุมพรที่อยู่ติดชายฝั่งได้รับผลกระทบจากคลื่นที่ซัดเข้าสู่ฝั่ง 5 ตำบล คือ ต.นาชะอัง ต.นาทุ่ง ต.ท่ายาง ต.ปากน้ำชุมพร และ ต.หาดทรายรี จึงสั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ คือ เทศบาลตำบล (ทต.) นาชะอัง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาทุ่ง ทต.ท่ายาง ทต.ปากน้ำชุมพร อบต.ปากน้ำชุมพร และ ทต.หาดทรายรี ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายโดยเร็ว เพื่อเสนอจังหวัดชุมพรประกาศให้พื้นที่ประสบภัยเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อนำงบฉุกเฉินมาช่วยเหลือในเรื่องซ่อมแซมสิ่งของที่ได้รับความเสียหายต่อไป
นายบรรยง อินทมาตย์ นายก อบต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน กล่าวว่าได้เกิดพายุฝนและคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าฝั่งทะเล ทำให้หมู่บ้านชาวประมงชายฝั่ง รีสอร์ต และร้านอาหารที่อยู่ริมชายฝั่งทะเลได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ นอกจากนั้น ยังมีเรือประมงชายฝั่งถูกซัดขึ้นมาบนฝั่ง บ้านบางหลังต้องพังลงไปอยู่ในทะเล ส่วนสะพานไม้ทางเดินไปลงเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะพิทักษ์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังได้รับความเสียหายทั้งหมด
ที่จ.นครศรีธรรมราช ศูนย์บรรเทาและป้องกันสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช รับแจ้งเกิดคลื่นลมทะเลพัดเข้าหาชายฝั่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ พร้อมลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า ได้เกิดคลื่นลมแรงพัดเข้าหาชายฝั่งตั้งแต่เย็นวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ถนนเลียบชายทะเล ตั้งแต่ อ.ขนอม สิชล ท่าศาลา เมือง ปากพนัง และ อ.หัวไทร ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ส่งผลให้ถนนบางช่วงต้องสั่งปิดห้ามสัญจรไปมาโดยเด็ดขาด
นายชัยธวัช ศิวะบวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางศูนย์ป้องกันบรรเทาและสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกประกาศเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านเส้นทาง สาย 4013 ปากพนัง–หัวไทร ในเขตพื้นที่ ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง หลังจากพบว่ามีคลื่นสูงซัดน้ำทะเลขึ้นมาบนพื้นผิวจราจร ส่งผลให้พื้นถนนถูกกัดเซาะชำรุดเสียหายอย่างหนัก
“เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงหน้าสตน อ.หัวไทร ได้ปิดประกาศห้ามใช้เส้นทาง นอกจากจุดนี้แล้วยังมีที่บริเวณบ้านบ่อคณที ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง ที่ถูกคลื่นกัดเซาะรุนแรงจนถนนที่ลาดยางมะตอยหลุดออกมาเป็นแผ่น ๆ เจ้าหน้าที่จึงต้องนำกรวยยางมาตั้งปิดการจราจร พร้อมติดป้ายเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวัง การที่เกิดคลื่นดังกล่าว มีผลกระทบจากอิทธิพลลมมรสุมในทะเลปรวนแปรอย่างหนัก ทะเลมีความสูงกว่า 3 เมตร ขณะที่คลื่นชายฝั่งสูง 1-3 เมตร มีแนวโน้มรุนแรงกว่าทุกปี” นายชัยธวัชกล่าว
นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า ได้รับรายงานว่ามีโรงเรียนในพื้นที่ ท่าศาลา สิชล เกิดน้ำท่วมฉบับพลัน ทั้งระดับอนุบาล ประถม และมัธยม ซึ่งทางจังหวัดได้ประสานไปกับทางโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ทางโรงเรียนเป็นผู้พิจารณาสั่งปิด และหากว่าไม่ปลอดภัยสั่งปิดได้ตามสถานการณ์ ส่วนพื้นที่เสี่ยงขณะนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะที่ อาสาสมัครมูลนิธิฯ และหน่วยทหารเร่งเข้าพื้นที่เสี่ยงขนย้ายประชาชนและเด็กนักเรียนมาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว
