เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีมีการเผยแพร่คลิปนักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนอนุบาลเกาะคา (น้ำตาลอนุเคราะห์) อ.เกาะคา จ.ลำปาง ก่อเหตุทำร้ายรุ่นน้อง ชั้น ม.2 บังคับให้กราบเท้า ล่าสุด ผู้ปกครองน้องเอ (นามสมุติ) อายุ 15 ปี ชาว อ.เกาะคา จ.ลำปาง หนึ่งในกลุุ่มรุ่นพี่ ม.3 ที่ร่วมก่อเหตุ พร้อมน้องเอ (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ขณะนี้เหตุการณ์บานปลายถึงขั้นมีการตั้งค่าหัวให้ใครก็ได้ตามล่ามาสั่งสอน และให้ถ่ายคลิปภาพไว้ จะได้รับค่าหัวสูงถึงเกือบ 100,000 บาท ทำให้ครอบครัวรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากจนเกิดความทุกข์ใจไม่น้อยและเกรงเหตุการณ์จะบานปลาย
“ตอนแรกเมื่อเห็นคลิปภาพก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่คิดว่าน้องเอจะไปก่อเหตุทำร้ายเด็กรุ่นน้อง แต่เมื่อดูคลิปภาพแล้วต้องยอมรับผิดทั้งหมด หลังถูกตำหนิอย่างมาก ขณะนี้จะดูแลน้องไม่ให้ไปก่อเหตุแบบนี้อีก ทั้งนี้น้องเอเองก็สำนึกผิด และได้บทเรียนไปแล้วจากสังคมที่รุมด่า ตำหนิอย่างมากและอย่างกว้างขวาง จึงอยากขอให้สังคมให้อภัย และให้โอกาสน้องเอได้กลับตัว” ผู้ปกครองกล่าว
ขณะที่น้องเอได้ยกมือไหว้ พร้อมกล่าวว่า ขอโทษผู้ปกครองและรุ่นน้อง ม.2 รวมถึงขอโทษสังคมที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม และสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป อยากไปขอขมาผู้ปกครองและขอโทษรุ่นน้องอย่างเป็นทางการด้วยตัวเอง ยอมรับว่าได้บทเรียนในชีวิตเพราะไปทางไหนมีแต่คนรังเกียจ มีคนหมายหัว รับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ส่วนเพื่อนๆ ทุกคนจากการที่พูดคุยกันต่างได้รับผลกระทบในสิ่งที่ทำลงไปเช่นกัน จึงอยากจะขอโอกาสสังคมได้กลับตัวอีกครั้ง
ด้านน้องบี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นรุ่นน้อง ม.2 ที่ถูกรุมทำร้าย กล่าวว่า วันนี้ผู้ปกครองได้ทำพิธีส่งเคราะห์ และสู่ขวัญตามความเชื่อของชาวล้านนา ขณะนี้อยากกลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนตามเดิม เพราะขาดเรียนมาแล้วหลายวัน สภาพจิตใจดีขึ้นมากแล้ว อยากให้เรื่องทั้งหมดจบลงโดยเร็ว เพราะตอนนี้ถือว่าต่างฝ่ายต่างบอบช้ำจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียรุมด่ารุ่นพี่ ยังมีกรณีที่ตั้งค่าหัวด้วย ซึ่งตนพอทราบมาบ้าง โดยมองว่าการตั้งค่าหัวรุ่นพี่นั้นทำเกินกว่าเหตุ เพราะอย่างไรก็ตามทุกคนคือเพื่อนของตนในโรงเรียน อยากให้เรื่องราวจบลงโดยเร็ว เพราะตอนนี้เกิดผลกระทบทุกอย่างไปหมด
ด้านยายของเด็กนักเรียน ม.2 ที่ถูกรุ่นพี่ทำร้าย เปิดเผยว่า ขณะนี้เรื่องราวบานปลายไปมาก จึงอยากให้เรื่องทั้งหมดยุติโดยเร็ว ตนมองว่าขณะนี้ทั้งสองฝ่ายเจอกระแสสังคมรุมตำหนิอย่างมาก ยิ่งทำให้เด็กบอบช้ำ ตนไม่โกรธเด็กที่ก่อเหตุ และพร้อมให้อภัยเด็ก ม.3 เพราะเชื่อว่าสิ่งที่เด็กๆ ทำลงไปขาดความยั้งคิด เกิดความคึกคะนอง จึงทำให้ทุกฝ่ายเดือดร้อน โดยเฉพาะผู้ปกครองของทุกฝ่าย เชื่อว่าเด็กๆ ได้รับบทเรียนแล้ว กรณีเพจลงขันตั้งค่าหัวเด็กเป็นการทำเกินกว่าเหตุ และจะทำให้เรื่องบานปลายไปอีก หากมีใครก่อเหตุ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอีก จะยิ่งทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย จึงขอให้ทุกคนยุติเรื่องราว
“ทราบมาว่ามีเด็กและวัยรุ่นไปวนเวียนหน้าโรงเรียน เพื่อจะทำอะไรสักอย่าง ขอร้องอย่าได้ไปทำร้ายเขา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอน และต้องขอขอบคุณในน้ำใจของทุกฝ่ายที่หวังดี และให้กำลังครอบครัวมาโดยตลอด” ยายของรุ่นน้องกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกรณีเพจตั้งค่าหัวรุ่นพี่ ม.3 จำนวน 12 คน โดยระบุว่าหากใครไปสั่งสอนและถ่ายคลิปภาพไว้ จะได้รับค่าหัวสูงถึง 100,000 บาท รวมทั้งมีการแชร์ในโซเชียลอย่างต่อเนื่อง โดยพบเป็นเพจท้องถิ่นใน จ.ลำปาง ที่ไม่พอใจ เด็ก ม.3 ซึ่งเป็นชาว อ.เกาะคา ก่อเหตุดังกล่าวภายในโรงเรียนทำให้ภาพลักษณ์ด้านการศึกษาของ อ.เกาะคา และ จ.ลำปาง เสียหาย จึงมีการโพสต์ และพูดคุยกันในการลงขันตั้งค่าหัวเพื่อสั่งสอนให้รุ่นพี่รู้บ้างว่า หากถูกทำร้ายจะรู้สึกอย่างไร จึงเกิดกระแสเด็กวัยรุ่นในพื้นที่ไปวนเวียนที่หน้าโรงเรียนดังกล่าว ล่าสุด เพจดังกล่าวได้มีการลบโพสต์ไปแล้วเหลือเพียงการพูดคุยแชร์ข่าวกันเท่านั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร และตำรวจ สภ.เกาะคา ออกหาข่าวดังกล่าวเพื่อขอให้ยุติเรื่องราวการตั้งค่าหัว เนื่องจากเกรงเหตุการณ์บานปลายโดยเฉพาะการก่อเหตุร้ายขึ้น รวมทั้ง สภ.เกาะคา จ.ลำปาง สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ออกตรวจตราตามโรงเรียน และบ้านของนักเรียน ชั้น ม.3 เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น
