เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้ชื่อ “กัลย์เอกนันท์ สมประสงค์” แชร์ภาพและข้อมูลผ่านเพจเฟซบุ๊ก “พลเมืองในนครหัวหินครับ” ระบุว่า ยึดชายหาดกับปลูกสิ่งก่อสร้าง รุกล้ำเข้าไปในทะเล เรื่องไหนหนักและสาหัสกว่ากัน ผลประโยชน์ของคนหัวหินทุกคน ที่ควรได้ประโยชน์ใช้สอยของชายหาดสาธารณะ ที่เมืองหัวหินต้องมีและได้ใช้ประโยชน์ ในการพักผ่อน เล่นน้ำ จัดกิจกรรมต่างๆ และรองรับนักท่องเที่ยว หาดสวรรค์ หัวหิน เมืองตากอากาศชายทะเล ที่มีมนต์ขลัง
สำหรับโพสต์ดังกล่าวได้แสดงภาพต่อเนื่องโดยมีภาพมุมสูง พบว่ามีการก่อสร้างอาคารร้านอาหาร บ้านพักอาศัยและโรงแรมรุกลงไปในทะเลหัวหินอย่างชัดเจน ตั้งแต่บริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิมถึงสะพานปลาหัวหิน ริมถนนเรศดำริห์ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน หลังจากเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ มีผู้โพสต์ภาพผ่านเพจเดียวกันกรณีผู้ประกอบการบนหาดหัวหิน บริเวณซอยหัวหิน 77 วางโต๊ะ เก้าอี้ ร่มผ้า ปิดกั้นบริเวณชายหาด ทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ด้านนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน ชี้แจงว่า กรณีวางร้านค้าปิดชายหาดได้ตรวจสอบแล้วพบว่าร้านดังกล่าวตั้งร้านเร็วกว่าร้านอื่น จึงโดดเด่น แต่ร้านค้าตั้งในพื้นที่ที่กำหนดไว้ กรณีภาพที่โซเชียลนำเสนออยู่ในช่วงน้ำทะเลขึ้นสูง ร้านจึงล้ำชิดริมหาด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ว่ากล่าวตักเตือนหากน้ำทะเลหนุนสูง ให้รอจนกว่าน้ำทะเลจะลดลงจึงตั้งร้านค้า เพื่อเปิดพื้นที่ชายหาดให้มีทางเดินสำหรับนักท่องเที่ยว สำหรับภาพอาคารที่รุกหาด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง หลังจากเทศบาลหัวหินแจ้งให้เจ้าของอาคารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนั้นจะต้องตรวจสอบใบอนุญาตหากมีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ชายหาด ส่วนการพิจารณาตัดน้ำ ตัดไฟ ในอาคารทั้งหมด หลังเทศบาลมีคำสั่งรื้อถอนอาคารนั้น ขอเรียนว่า การขอเลขที่บ้านชั่วคราวมีการใช้อำนาจตามกฎหมาย พ.ร.บ.ทะเบียนราษฎร โดยเป็นสิทธิของผู้ขอยื่น ไม่เกี่ยวกับการใช้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร
