เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่สถานีตำรวจภูธรเสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต 10 พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 2 พร้อมทีมงาน นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายป้ายไวนิลหาเสียงที่ถูกมือดีรื้อทำลายจนพังยับเยินจำนวน 1 ป้าย เข้าพบ พ.ต.ท.สมชาย บุญโญปกรณ์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เสิงสาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินทางกฎหมาย ก่อนจะมอบหมายให้นายแถวพันธ์ พิริยะสกุลรัตน์ หนึ่งในทีมงานหาเสียง เป็นผู้รับมอบอำนาจแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุกับทาง ร.ต.อ.เทวิญ นามศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เสิงสาง ฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358
ทั้งนี้ ป้ายหาเสียงของนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ที่ถูกทำลายนั้น เป็นป้ายไวนิลที่เพิ่งติดตั้งเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ตั้งอยู่บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 224 สายครบุรี – เสิงสาง ช่วงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 89 – 90 ท้องที่บ้านบัวหลวง ต.เสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา โดยลักษณะถูกรื้อป้ายคว่ำลงไปริมถนน แผ่นป้ายไวนิลมีลักษณะคล้ายถูกของแข็งทุบตีจนขาดยับเยิน ซึ่งทางทีมงานของแรมโบ้อีสานคาดว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุในช่วงค่ำวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นฝีมือของบุคคลคนกลุ่มใด
ทางด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มมีการเมืองที่สกปรกเกิดขึ้นในพื้นที่เลือกตั้งเขตที่ 10 จ.นครราชสีมาอีกแล้ว ตนเองเพิ่งให้ทีมงานปักป้ายหาเสียงไปเมื่อวานนี้ ผลปรากฏว่าผ่านไปไม่ถึงวันป้ายหาเสียงก็มาถูกทำลาย 1 ป้าย ซึ่งถือเป็นภาพการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ จึงมอบหมายให้ทีมงานดำเนินการแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ช่วยติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นการขัดขวางการหาเสียงเลือกตั้ง และเป็นการทำลายทรัพย์สิน
สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นจะเป็นใครส่วนตัวก็ยังไม่ทราบ แต่สิ่งที่กระทำลงไปนั้นสร้างบรรยากาศที่ไม่ดี สร้างบรรยากาศให้เกิดความขัดแย้ง สร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งที่ตนเองอยากเห็นการเมืองที่สร้างสรรค์ ใสสะอาดและโปร่งใส ไม่ต้องการเห็นการเมืองที่เล่นกันแบบใต้ดินใต้โต๊ะ เล่นกันแบบสกปรก เช่นนี้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดการเอาเยี่ยงอย่าง จึงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางขั้นตอนของกฎหมายอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ นายสุภรณ์ ยังได้ฝากไปถึงผู้ที่ก่อเหตุว่า อยากจะบอกว่าบ้านเมืองต้องการความปรองดอง บ้านเมืองต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐนั้น ไม่ต้องการที่จะเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกแล้ว ใครก็ตามที่ก่อเหตุเพื่ออะไรก็แล้วแต่ ขอให้เล่นการเมืองอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกผู้แทนด้วยตัวเองอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
