จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “เมธินี ศรีเสน” โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความระบุว่าใครพบเบาะแส มีรางวัลให้ค่ะ โดยในคลิปวิดีโอเป็นภาพคนร้ายชายวัยรุ่นเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในร้านขายของชำได้ทรัพย์สินมีทั้งเงินสดและสร้อยคอทองคำมูลค่าหลายหมื่นบาท ก่อนหลบหนีไป แต่กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งเอาไว้ภายในร้านสามารถบันทึกภาพของคนร้ายเอาไว้ได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กุมพาพันธ์ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเลขที่ 212 หมู่ 14 บ้านโคกกลาง ต.ลุมพุก อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ซึ่งเป็นตึก 2 ชั้น หน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำ ของนางศิรินภา ศรีเสน อายุ 50 ปี เจ้าของร้านขายของชำที่ปรากฏตามคลิปวิดีโอในเฟซบุ๊ก
นางศิรินภาเปิดเผยว่า กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งเอาไว้ภายในบ้านซึ่งหน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำและพบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้เป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปีเศษ สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำแขนยาว และสวมกางเกงยีนส์ขาสามส่วน เดินเข้ามาทางด้านหลังบ้านก่อนจะยืนสังเกตการณ์ดูลาดเลาอยู่ประมาณ 2 นาที จากนั้นจึงหยิบเอากรรไกรที่วางอยู่หลังบ้านงัดลูกปิดประตูหลังบ้านจนเปิดออกแล้วเดินเข้าไปในบ้านหยิบเอากระเป๋าเงินที่วางอยู่หน้าโทรทัศน์เปิดหยิบเอาเงินในกระเป๋า จำนวน 1,000 บาท แล้วเดินไปเปิดที่ลิ้นชักโต๊ะที่ผู้เสียหายนั่งขายของอยู่ภายในร้าน หยิบเอาเงินอีก 500 บาท และบุหรี่จำนวน 3 ซอง จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตนที่อยู่บริเวณชั้นล่างไม่ถึง 1 นาที คนร้ายจึงเดินกลับออกมาจากห้องนอนแล้วเดินออกไปทางประตูหลังบ้านเช่นเดิม คนร้ายใช้เวลาก่อนเหตุนานประมาณ 5 นาที โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
“เปิดร้านขายของชำมานานประมาณ 1 ปี ก่อนเกิดเหตุได้ปิดร้านเพื่อออกไปทำธุระนอกบ้านนานประมาณ 1 ชั่วโมง เมืื่อกลับเข้าบ้านเวลาประมาณ 14.00 น. จึงพบว่าลูกบิดประตูหลังบ้านมีร่องรอยของการงัด และพบร่องรอยของการรื้อค้นในห้องนอนชั้นล่าง ตนจึงไปตรวจดูทรัพย์สินภายในบ้านจึงพบว่ามีเงินสดที่เก็บเอาไว้ภายในห้องนอนจำนวน 30,000 บาท พร้อมสร้อยข้อมือหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น และสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ อีก 1 เส้น โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ที่อยู่ในห้องนอนหายไป นอกจากนี้แล้วยังพบว่า มีเงินที่เก็บเอาไว้ในกระเป๋าเงินที่วางอยู่หน้าโทรทัศน์ จำนวน 1,000 บาท เงินในลิ้นชักโต๊ะนั่งขายของของตนอีก 500 บาท และบุหรี่ 3 ซอง หายไปด้วย รวมมูลค่าสิ่งของที่หายไปกว่า 70,000 บาท ตนจึงได้ไปเปิดกล้องวงจรปิดดู ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ทั้งหมด ก่อนโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ” นางศิรินภากล่าว และว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่จะไปตระเวนก่อเหตุกับคนอื่นอีก
