เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนศักดิ์ วิสาสะ หัวหน้าสายตรวจสรรพสามิต สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารชุดรักษาความสงบเรียบร้อย อ.เมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 7 นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณอู่ซ่อมรถชื่อ อู่ Bike garage เลขที่ 519 หมู่ 2 ต.บ้านไร่ อ.เมือง มีนายดิเรก นาคหนู อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 487/59 ถนนศรีสุริยวงศ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นเจ้าของอู่ดังกล่าว และมีนายไพศาล เต็มเปี่ยม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 9 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นลูกจ้างอู่ พบว่าบริเวณด้านในอู่ดังกล่าวมีรั้วสังกะสีรอบมิดชิด พบมีรถจักรยานยนต์หลายสิบคัน บางคันมีราคาแพงถึงหลักล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นมอเตอร์ไซค์วิบากคันละกว่า 3 แสนบาท บางคัน เช่น ยี่ห้อ FUNKY ที่นำเข้าจากต่างประเทศถูกเจ้าหน้าที่คัดออกมาจอดเรียงรายหลายคัน พร้อมเดินดูรถสภาพรถ และตรวจสอบเอกสารหลักฐานการนำเข้ารถแต่ละคัน แต่ทางเจ้าของอู่อ้างว่าเป็นรถที่ลูกค้านำมาซ่อม และพยายามติดต่อเจ้าของรถให้นำเอกสารหลักฐานมา แสดงยืนยันต่อเจ้าพนักงานเพื่อยืนยันหลักฐานการนำเข้าที่ถูกต้อง ซึ่งรถทั้งหมดนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ 
นายธนศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเบาะแสและมีการร้องเรียนให้มาตรวจสอบสถานที่ ต้องสงสัยว่ามีการลักลอบหรือซุกซ่อนรถที่ยังไม่ได้ผ่านการชำระเสียภาษี เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบรถของทางเจ้าของที่อ้างว่าเป็นรถที่นำเข้ามาทั้งคัน ซึ่งการนำเข้าทั้งคันนั้นจะต้องผ่านด่านศุลกากร มีการเรียกเก็บภาษี ตอนนี้กำลังรอให้ทางผู้ประกอบการหรือเจ้าของ นำหลักฐานจากที่อ้างว่าศูนย์จะส่งมาให้เป็นใบเอกสารอินวอยการนำเข้ารถจักรยานยนต์ทั้งคัน ถ้ามีหลักฐานการนำเข้าใบเสียภาษีถูกต้องก็ถือว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถ้าไม่มีใบอนุญาตก็จะต้องชำระค่าปรับและเสียภาษีสรรพสามิต เพื่อออกหลักฐานต่าง ๆ ให้ถูกต้อง ตอนนี้จึงยังคงรอเอกสารหลักฐานที่ผู้ประกอบการ ซึ่งอยู่ระหว่างประสานงานการติดต่อกันอยู่
