ตร.ทำแผนยิงหญิง พร้อมรับสารภาพเข้าร่วมกลุ่มป่วนชายแดนใต้ปี’59

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี, พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 และ นายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอโคกโพธิ์ นำตัวนายมะสุกรี วาเต๊ะ อายุ 24 ปี อยู่ที่ 75 หมู่ 1 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ร่วมก่อเหตุใช้อาวุธปืนลอบยิงนางกัญญารัตน์ ยศอักษร อายุ 59 ปี อยู่ที่หมู่ 2 ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์จากตลาดนัดเพื่อกลับบ้านพัก เหตุเกิดบนถนนสายชมบท พื้นที่หมู่ 1 ต.ป่าบอน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2561

สืบเนื่องจากผลการติดตามตรวจสอบข้อมูลจากพยานหลักฐานและแหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลว่า นายมะสุกรี คือ ผู้ต้องสงสัย และ หลบซ่อนตัวในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จึงได้เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2562 และได้นำตัวส่งเข้าหน่วยซักถาม ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม ซึ่งผลการซักถาม นายมะสุกรี วาเต๊ะ ให้การยอมรับว่าเข้าร่วมขบวนการเมื่อปี 2559 ให้การยอมรับว่าเกี่ยวข้องกับเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงนางกัญญารัตน์ ยศอักษร เสียชีวิต โดยร่วมกันพวกรวม 5 คน ตนเองทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้กับนายไซฟูดดีน หะยีปูเต๊ะ ซึ่งเป็นมือปืน และแนวทางการสืบสวนสอบสวนยังทราบอีกว่า ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ยังมี นายกอเซ็งลาเตะ ยามา และ นายอับดุลรอแม ดอเลาะ ซึ่งทั้ง 3 คนได้ถูกออกหมายจับแล้วในคดีนี้และยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี และก่อนหน้านี้สามารถจับกุมได้แล้ว 1 คน คือ นายอาบีดีน ลาเต๊ะ สารภาพว่าทำหน้าที่ชี้เป้าให้กับมือปืน

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กล่าวว่า นายมะสุกกรี ถือว่าเป็นผู้ต้องหารายที่ 2 ที่จับกุมได้ในคดีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จับกุมนายอาบีดีน ลาเต๊ะ ได้แล้ว ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ติดตามและกำหนดเป้าหมายก่อเหตุ และได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปแล้ว ส่วนคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนีอีก 3 คน ทางเจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วจากการสอบสวนขยายผลจากหลักฐานและคำให้การของผู้ต้องหา ก่อนหน้านี้ได้ทำการตรวจค้นบ้านของผู้ร่วมก่อเหตุแต่ไม่พบตัวคาดว่าจะหลบหนีไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าน่าจะยังกบดานในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยมีแนวร่วมหรือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ จึงขอแจ้งไปยังญาติหรือบุคคลที่ให้ที่หลบซ่อนช่วยนำตัวมามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมและใช้หลักสิทธิมนุษยชน

 

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image