วันที่ 14 พฤษภาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาสตราจารย์ศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นำคณะสื่อมวลชน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาขนเกี่ยวกับระบบกำจัดขยะมูลฝอยของโรงเผาขยะ ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ของประชาชนบนเกาะสมุย
สำหรับเตาเผาขยะกรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการก่อสร้างด้วยงบประมาณ 500 ล้านบาท เริ่มเปิดใช้งานครั้งแรกและถ่ายโอนให้เทศบาลนครเกาะสมุยเมื่อปี พ.ศ.2542 แต่เมื่อใช้งานมาสักระยะจนถึงปีพ.ศ. 2545 เตาเผาได้ชำรุดเสียหาย ผนังเตาเผาแตกไม่สามารถเผาขยะได้ จากนั้นทางเทศบาลนครเกาะสมุยได้ซ่อมแซมมาแล้วหลายครั้งก็ไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ จนปัจจุบันนี้ไม่ได้ใช้เตาเผาขยะแล้ว และมีขยะสะสมกว่า 2 แสนตัน ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของชุมชนใกล้เคียง
นางเตือนใจ สมหวัง ชาวบ้านต.มะเร็ต ที่อยู่ใกล้เตาเผาขยะ บอกว่า ได้รับผลกระทบจากกลิ่น และน้ำเสียจากเตาเผาขยะ ถ้ามีฝนตกลงมาน้ำเน่าเสียจากบ่อขยะจะไหลลงสู่คลองท่าเร็ต ที่อยู่ใกล้กับเตาเผาขยะ ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้น้ำในคลองท่าเร็ตได้เช่นอดีต นอกจากนี้บ่อน้ำซึมที่ชาวบ้านใช้บริโภคก็ไม่สามารถใช้ดื่มกินได้เช่นอดีต ซึ่งเป็นแบบนี้มานานนับ 10 ปีแล้ว
“ในส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะมีการนำขยะออกนอกเกาะสมุยแบบขยะเปียก หรือแบบสด เนื่องจากขยะยังคงมีน้ำเสียและกลิ่นเหม็นที่อาจจะมีผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมตามมา ถ้าจะนำออกไปกำจัดนอกเกาะสมุยควรที่จะอบแห้งด้วยระบบ อาร์ดีเอฟ เพราะไม่อยากให้ปัญหาขยะของเกาะสมุยที่มีการนำออกจากเกาะสมุยไปกำจัดบนแผ่นดินใหญ่ ทำให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงเตาเผาขยะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับชาวบ้านบนเกาะสมุย” นางเตือนใจ กล่าว
ขณะที่นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย กล่าวว่า เทศบาลนครเกาะสมุยไม่มีศักยภาพในการกำจัดขยะ จึงต้องว่าจ้างบริษัทเอกชนให้รับเหมาด้วยการฝั่งกลบขยะแบบชั่วคราว โดยสามารถกำจัดขยะได้วันละ150ตัน แต่ปริมาณขยะที่เข้ามาสู่เตาเผาโดยเฉลี่ยวันละ 168ตัน นอกจากนี้ยังมีปริมาณขยะเก่าตกค้างอีกกว่า 2 แสนตัน ทั้งนี้ทางเทศบาลนครเกาะสมุยได้มีแนวทางในการบริหารกำจัดขยะดังกล่าวโดยขอความร่วมมือให้ทุกภาคที่สำคัญสถานประกอบการโรงแรมช่วยกันคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง
นอกจากนี้เทศบาลนครเกาะสมุยจะเปิดจัดประชุมเวทีประชาคมในวันที่ 23 พฤษภาคม นี้ โดยเชิญประชาชนกลุ่มเป้าหมายทุกครัวเรือนที่อยู่ในหมู่ที่ 1,2และ5 ตำบลมะเร็ต และประชาชนที่อาศัยในหมู่ที่ 5 ตำบลหน้าเมือง ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหากลิ่นเน่าเหม็นของขยะ และปัญหาน้ำเสียจากเตาเผาขยะ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนในการแสดงความคิดเห็นแก้ไขปัญหาการจัดขยะตกค้างในพื้นที่
ส่วนนายรักษเกชา กล่าวว่า จากการนำคณะลงพื้นที่เพื่อติดตามปัญหาขยะบนเกาะสมุย สืบเนื่องจากได้มีชาวบ้านได้ร้องเรียนจึงลงพื้นที่มาดูปัญหา และจากการที่ได้มารับฟังปัญหาแล้วพบว่าปัญหาที่ทำให้เตาเผาขยะเกาะสมุยใช้งานไม่ได้นั้น เกิดจากความรู้ในการเผานั้นคงมีไม่เพียงพอจึงทำให้นำขยะทุกชนิดเข้าไปเผาจนทำให้เครื่องเสียไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งเรื่องนี้คณะผู้ตรวจการแผ่นดินจะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลเพื่อหาทางแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
