ลบภาพเผาไร่อ้อยแล้ว “เจ้าของเพจ” ระบุโพสต์เดียวเปลี่ยนชีวิต ดังชั่วข้ามคืน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jutaporn Rommuang ได้แชร์ภาพการเผาไร่อ้อยหลังบ้านตัวเอง เป็นภาพที่ดูแล้วน่ากลัวมาก ระบุว่า “ฝุ่น PM 2.5 ที่ว่าแรง ยังไม่สู้ป่าอ้อยหลังบ้านเลย “มหากาพย์ป่าอ้อย..” ถอยรถหนีนำกะบ่ทันนนน.. #ฝากแชร์ให้มันถึงนายอำเภอด้วยจ้าาาาาา – ที่บ้านนาทม ต.นาทม อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี” หลังจากโพสภาพและข้อความออกไป มีการส่งต่อจำนวนมาก และมีสื่อนำภาพไปเสนอข่าว แต่สุดท้ายเจ้าของเพจก็ลบออก เพาะเจ้าของไร่อ้อยได้มาขอโทษ ไม่อยากให้เรื่องยืดยาว พร้อมระบุในโพสว่า โพสเดียวเปลี่ยนชีวิต คนดังชั่วข้ามคืน

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนาทม ต.นาทม อ.ทุ่งฝน สถานที่ปรากฏในโพสพบเป็นเหตุการณ์จริง แต่ไฟที่ไหม้ไร่อ้อยกว่า 20 ไร่ ดับลงหมดแล้ว มีนายสมเดช อาจหาร ผช.ผญบ.ม.1 บ้านนาทม ต.นาทม นำตรวจสอบไร่อ้อยที่ถูกไฟไหม้ โดยบ้านหลังดังกล่าวออกไปทำงานหมด ตัวบ้านตั้งอยู่ก่อนถึงตัวหมู่บ้าน เป็นบ้านชั้นเดียวปลูกในพื้นที่ริมถนน หลังบ้านอยู่ติดกับไร่อ้อย โดยมีถนนดิน ห่างจากรั้วบ้าน 4-5 เมตร มีคนงานเข้ามาตัดอ้อยที่ถูกไฟไหม้กองไว้ รอการขนขึ้นรถบรรทุกไปส่งโรงงาน

คนงานตัดอ้อยคนหนึ่ง เล่าว่า เป็นคนในหมู่บ้าน รับจ้างตัดอ้อยมากองไว้เตรียมขึ้นรถบรรทุกเท่านั้น เนื่องจากมีคนไปว่าจ้างให้มาตัดอ้อยที่ถูกไฟไหม้เมื่อคืนนี้ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเผาอ้อย ตนรับจ้างตัดเพียงอย่างเดียว โดยจะได้ค่าแรงตัดแบ่งกอง ๆ ละ 3 บาท ที่มีอ้อยกองละประมาณ 30 ท่อน ซึ่งทราบแต่ว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของคนในหมู่บ้าน มีนายทุนมาเช่าปลูกอ้อยเท่านั้น

นายสมเดช อาจหาร ผช.ผญบ.ม.1 บ้านนาทม เปิดเผยว่า ไฟไหม้ไร่อ้อยเมื่อคืนไม่ได้ออกมาดู ไม่รู้ว่าไร่อ้อยแปลงนี้เป็นของใคร ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางผู้นำท้องที่และท้องถิ่น ได้ประกาศให้ชาวบ้านทราบว่า ห้ามจุดไฟเผาอ้อย โดยประกาศรณรงค์ทุกวัน นายอำเภอฯก็กำชับมาตลอด ในเรื่องของฝุ่นละอองและการห้ามเผาไร่อ้อย แค่เมื่อมีการเผาไร่อ้อยแบบนี้ คงต้องห้ามไม่ให้มีการเผาอย่างเด็ดขาก ซึ่งนี่อาจจะเป็นเหตุแรกของบ้านเรา และสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนของเรา

Advertisement

“ ยังไม่รู้มีการแจ้งความกับคนเผาหรือยัง คงต้องคุยกับตัวผู้ใหญ่บ้านอีกที่ เพราะเมื่อวานขณะเกิดเหตุแกออกมาดู จึงยังไม่รู้ว่าแกจะจัดการอย่างไร เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ก็ขอฝากเตือนผู้ที่ลักลอบเผาว่า มันทำให้เกิดมลพิษ และมีความผิดตามกฎหมาย ถ้าห้ามกันแล้วไม่ฟัง ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาเราก็รณรงค์ห้ามเผาป่าเผาอ้อย ทางจังหวัดก็มีนโยบายให้พ่อแม่พี่น้องรณรงค์ไม่ให้เผา เพราะทำให้เกิดสารพิษและอื่น ๆ”

นายธนสาร เจริญสุข นายอำเภอทุ่งฝน เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ได้รับรายงานเหตุไฟไหม้ไร่อ้อยแล้ว ผู้เสียหายก็เดินทางมาร้องเรียน ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุ่งฝน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงไปติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เบื้องต้นยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนจุดไฟเผา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จ.อุดรธานี มีพื้นที่ปลูกอ้อยมากที่สุดในภาคอีสาน มีโรงงานน้ำตาลในพื้นที่ 4 โรง และในพื้นที่ใกล้เคียงอีก 4 โรง ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น , จ. หนองบัวลำภู , กาฬสินธุ์ และ จ.เลย ปัญหาการเผาอ้อยรุนแรงทุกปี ในปีนี้แม้จะมีการรณรงค์ และการออกประกาศ การเผาอ้อยมีความผิดโทษจำคุก 7 ปี แต่ก็ยังมีการเผาอ้อยอยู่ โดยโรงงานน้ำตาลทั้ง 4 โรง รายงานว่าอ้อยถูกส่งเข้าโรงงานเป็น “อ้อยเผา” 50-70 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่อุดรธานีไม่ตกเป็นข่าว คุณภาพอากาศต่ำกว่ามาตรฐาน PM 2.5 เพราะอุดรธานี “ไม่มีสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ…

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image