‘ฮิโนกิแลนด์’ ทุ่ม 10 ล. นำซากุระจากญี่ปุ่นปลูก 1,300 ต้น เบ่งบานถึงมีนาคม

“ฮิโนกิแลนด์” นำซากุระจากเกาะคิวซู ญี่ปุ่น ปลูก 1,300 ต้น เผยเบ่งบานถึงมีนาคมนี้ เผยมี 3 สายพันธุ์แท้จากนอก เชื่อปีหน้า นทท.เพิ่ม 2-3 เท่าตัว บอกมีสัญญาสุภาพบุรุษห้ามขยายพันธุ์เพื่อการค้า เร่งสร้างเจแปนทาวน์แห่งช็อปปิ้งสินค้าญี่ปุ่นโดยตรง เล็งสร้างออนเซ็น-ที่พักปลายปีนี้ อีก 800ล้าน รวมลงทุนโครงการกว่า 2,000 ล้าน

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 นายอนิรุทธิ์ จึงสุดประเสริฐ ประธานบริหารบริษัทบ้านไม้หอมฮิโนกิไชยปราการ จำกัด ผู้ดำเนินโครงการฮิโนกิแลนด์บ้านร้องธาร หมู่ 6 ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เผยการนำต้นซากุระ จากเกาะคิวซู ประเทศญี่ปุ่น มาปลูกในโครงการดังกล่าว เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศ เพื่อส่งเสริมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ว่าได้นำต้นซากุระที่ดอกบานสะพรั่งมาปลูก ล็อตแรกจำนวน 300 ต้น ความสูง2.5 เมตร และปลูกซากุระล็อตที่ 2 อีก 1,000 ต้น วันที่ 25 กุมภาพันธ์ รวม1,300 ต้น ซึ่งซากุระออกดอกจนถึงปลายมีนาคมนี้ ทั้งนี้ซากุระ ล็อตที่ 2 เป็นต้นใหญ่ และติดดอกมากกว่าล็อตแรก ลำต้นสูง 3-3.5 เมตร “ซากุระ ล็อตแรก มีอายุ 12 ปี และเริ่มติดดอก เมื่ออายุ 8 ปี โดยใส่ตู้คอนเทนเนอร์และขนส่งทางเรือ เหตุที่นำเข้าซากุระ เพราะอยากให้คนไทยเห็นและไม่มีโอกาสไปที่ญี่ปุ่น ซึ่งปีหน้าเชื่อว่าซากุระ จะเบ่งบานตั้งแต่มกราคมถึงปลายกุมภาพันธ์ ทั้ง 1,300 ต้น มี 3 สายพันธุ์ คือ ขาวกลีบเดี่ยว ขาวกลีบซ้อน และแดงกลีบซ้อน แต่ดอกออกมาเป็นสีชมพู ต่างจากดอกพญาเสือโคร่งในบ้านเรา ดอกออกมาสวยมาก เพราะเป็นสายพันธุ์แท้ ซึ่งได้ลงทุนนำซากะระมาปลูก เฉลี่ยต้นละ 6,500 บาท รวมมูลค่า กว่า 10 ล้านบาท”นายอนิรุทธิ์ กล่าว ปีหน้าฤดูท่องเที่ยว เชื่อว่า นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว จากเดิมวันละ 7,000-8,000 คน ซึ่งซากุระ ที่นำมาปลูกต้องได้รับอนุญาตจากทางการของเกาะคิวซู ประเทศญี่ปุ่นก่อน โดยมีข้อตกลง คือ ห้ามขยายพันธุ์เพื่อการค้าหรือจำหน่าย ถือเป็นสัญญาสุภาพบุรุษ เพราะทางการญี่ปุ่น และสถานกงสุลญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ได้มาสำรวจโครงการแล้ว และยอมรับว่าเป็นเมืองญี่ปุ่น จึงอนุญาตให้นำซากุระมาปลูกได้ โดยนำพันธุ์แดงอมชมพู ปลุูก 500 ต้น ขาวกลีบเดี่ยว 300 ต้น ขาวกลีบซ้อนอีก 500 ต้นรวม 1,300 ต้น ซึ่งสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศของไทยกับญี่ปุ่นใกล้เคียงกัน สามารถปลูกซากุระได้อย่างแน่นอน ส่วนความคืบหน้าก่อสร้างอาคารเจแปนทาวน์ ซึ่งเป็นอาคารจำหน่ายสินค้าของญี่ปุ่นโดยตรง มีร้านค้าหรือแหล่งช็อปปิ้งของนักท่องเที่ยว ซึ่งโครงการดังกล่าว ลงทุนไปแล้วกว่า 1,200 ล้านบาท แต่ยังไม่เสร็จทั้งหมด ยังมีแผนสร้างออนเซ็น และที่พัก ซึ่งเป็นออนเซ็นที่เทียบเท่ากับ ญีปุ่่นได้ 100 % ซึ่งมีแผนสร้างปลายปีนี้ แล้วเสร็จปลายปีหน้า อาจใช้เงินลงทุนอีก 800 ล้านบาท รวมมูลค่าลงทุนทั้งหมด 2,000 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image