เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี นำกำลังเข้าดับไฟป่า หลังเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ป่าวังครก หมู่ 7 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี บริเวณไหล่เขาเขียว สภาพพื้นที่เป็นผาสูงชัน ยาวประมาณ 5-6 กิโลเมตร สภาพพื้นที่ลาดชัน ลำบากต่อการเข้าดับไฟ
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นายประทีป เหิมพยัคฆ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี จ.ราชบุรี สั่งการให้นายวายุกฤช ศรีสุนนท์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าวังครก อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ร่วมกับนายประสาน เจนสวัสดิพงษ์ หัวหน้าฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ 4 (ห้วยไทร) นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยกันดับไฟป่า หลังจากได้รับรายงานเกิดไฟป่าขึ้นที่บริเวณพื้นที่ป่าวังครก หมู่ 7 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จุดแรกพบบริเวณไหล่เขาเขียว สภาพพื้นที่เป็นผาสูงชันแต่เป็นจุดเล็กๆ จุดที่ 2 บริเวณพื้นที่ป่าเขาเจดีย์ ป่าวังครกลักษณะไหม้ยาวไปถึงเขาหลังวัดป่ายาวประมาณ 5-6 กิโลเมตร สภาพพื้นที่ลาดชัน ลำบากในการเข้าดับไฟ จึงให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันทำแนวป้องกันไฟป่าในจุดที่เข้าไปไม่ถึง ดูจากสถานการณ์ไม่สามารถดับไฟหมด จึงได้ประสานนายสมชาย อรุณเนตร พนักงานพิทักษ์ป่า ระดับ ส.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่มาร่วมสนับสนุนเพิ่มเติม แต่สภาพพื้นที่บางแห่งเป็นภูเขาสูงชัน เป็นหน้าผาลำบากในการเข้าดำเนินการ จึงได้ดำเนินการทำแนวป้องกันไฟป่าคอยเฝ้าระวัง ขณะนี้ไฟยังคงเหลือบริเวณภูเขาบริเวณหลังวัดป่าวังครกและเขาหลังบ้านบึงใต้ หมู่ 7 ต.บ้านคา อ.บ้านคา หลายจุด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ย่างเข้าสู่วันที่ 3 ของการนำกำลังขึ้นไปดับไฟป่า บริเวณภูเขา ซึ่งยังมีกลุ่มควันลอยปกคลุมขุ่นมัวตลอดในช่วงนี้ จากการลาดตระเวนสืบหาข่าวต้นกำเนิดไฟป่าในครั้งนี้ คาดว่ามีสาเหตุเกิดจากไฟป่าได้ลุกไหม้มาจากบริเวณพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบริเวณป่าพุหิน บริเวณ หมู่ 1 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมประมาณ 3.5 แสนไร่ ได้ลุกลามขยายวงกว้างข้ามเข้ามายังบริเวณเขาห้วยเสือ จนมาถึงเขาตะแบกลงมาที่ป่าวังครก ป่าบ้านบึงใต้ หมู่ 7 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ซึ่งขณะนี้ได้ประสานให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมทั้งทำแนวกันไฟป่าในจุดที่มีปัญหาและลำบากยากต่อการเข้าดำเนินการ แต่สามารถดับไฟได้ในหลายจุดแล้ว
