ป้าน้อย ภรรยา ‘สุรชัย แซ่ด่าน’ พร้อมแกนนำแจ้งความศพผัวหาย

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30 น. นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือป้าน้อย อายุ 61 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 2/1 ซอยปิยะบุตร ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เดินทางมาพร้อมกับนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อายุ 58 ปี อดีตบรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ นายประเวศ ประภานุกูล อายุ 59 ปี ทนายความ เพื่อยื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.นที สิริวรวัชร์ ผกก.สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ผ่าน พ.ต.ท.สุขสวัสดิ์ บัวอิ่น รอง ผกก. (สอบสวน) เพื่อดำเนินการสอบสวน สืบหาข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตจากถูกฆาตกรรมของนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (แซ่ด่าน) อายุ 77 ปี สามีของป้าน้อยผู้ร้อง

เนื้อความบางช่วงบางตอนในหนังสือดังกล่าว ระบุว่ามีการพบศพโผล่แม่น้ำโขง 3 ศพ ศพแรกได้สูญหายไปในวันที่ 26 ธ.ค.61 ต่อมาระหว่างวันที่ 27 และ 29 ธ.ค.61 มีผู้พบศพชายนิรนามที่ถูกฆ่าในลักษณะเดียวกันอีก 2 ราย ลักษณะมีการใส่กุญแจมือ คว้านท้องแล้วยัดด้วยเสาปูนถ่วงแม่น้ำ ทั้งสองศพภายหลังได้ตรวจ DNA ยืนยันว่าคือนายชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือสหายภูชนะ และนายไกลเดช ลือเลิศ หรือสหายกาสะลอง เป็นคนสนิทของนายสุรชัย โดยทั้งสามได้ลี้ภัยไปอยู่ประเทศ สปป.ลาว และถูกอุ้มหายไปตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.61

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มของป้าน้อยได้เดินทางมาจังหวัดนครพนม ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.62 โดยเสาะหารายละเอียดเกี่ยวกับกรณีปลายปี 2561 มีข่าวในสื่อโซเชียลว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Nithiwat Wannasiri” ตั้งกระทู้ถามเพื่อนในเพจดังนี้ “29 ธันวาคม เวลา 18.50 น. มิตรสหายที่อยู่ในไทย ช่วยตรวจสอบศพชายไม่ทราบชื่อ ถูกฆ่าผ่าท้องยัดเสาปูนขนาด 1 เมตร ทิ้งแม่น้ำ 3 ราย ศพลอยน้ำขึ้นเกยฝั่ง ศพที่ 1 ลอยเกยฝั่ง วันพุธ 26 ธันวาคม 2018 ที่ “ท่าจำปา” ศพที่ 2 ลอยเกยฝั่ง วันพฤหัสบดี 27 ธันวาคม 2018 ที่ ต.ธาตุพนม ศพที่ 3 ลอยเกยฝั่ง วันเสาร์ 29 ธันวาคม 2018 ที่ ต.อาจสามารถ ต้องสงสัยว่าเป็นศพผู้ลี้ภัย 3 รายที่ถูกอุ้มหายเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา”

ซึ่งป้าน้อยมีความสงสัยว่าวันที่ 26 ธ.ค.61 ที่พบศพฆ่าถ่วงน้ำโผล่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ทำให้เชื่อว่าศพที่พบน่าจะเป็นศพของสามีตน

ขณะเดียวกันจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เปิดเผยว่า ศพที่ป้าน้อยอ้างว่าพบที่ ต.ท่าจำปา วันที่ 26 ธ.ค.นั้น ไม่เป็นความจริง สื่ออาจจะเสนอข่าวคลาดเคลื่อน เพราะในรายงานของหน่วยงานที่เป็นผู้ลากศพเข้าฝั่งนั้น ระบุว่าเจอศพวันที่ 28 ธ.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. โดยมีภาพถ่ายเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) และนายกฤษดา บุญระมี ผู้ใหญ่บ้านท่าจำปา หมู่ 1 ต.ท่าจำปา ช่วยกันนำศพเข้าหาฝั่ง โดยผูกศพไว้ที่ริมตลิ่งตรงข้ามกับป่าช้าบ้านท่าจำปา หมู่ 2

Advertisement

หลังจากนั้น นรข.ก็มอบหน้าที่ให้ ผญบ.ม.1 ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เช่น แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแพทย์มาชันสูตรพลิกศพ และหลังนายกฤษดา เสร็จภารกิจก็กลับมาตรงจุดที่มัดศพไว้ แต่ปรากฏว่าเชือกที่ผูกศพได้หลุดจากเงื่อนลอยออกไป กระทั่งวันรุ่งขึ้นศพที่หลุดได้ลอยไปเกยฝั่งที่บ้านสำราญเหนือ หมู่ 2 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ดังนั้น ศพที่พบนั้นเป็นศพหลุดมาจากบ้านท่าจำปา และไม่มีศพลอยติดฝั่งบ้านท่าจำปา ในวันที่ 26 ธ.ค. ตามที่โซเชียลระบุแน่นอน แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีป้าน้อยภรรยาของนายสุรชัยติดใจสงสัย ก็ต้องดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงกันต่อไป

โดยก่อนหน้านี้วันที่ 24 ก.พ. เวลาประมาณ 12.00 น. ป้าน้อยพร้อมกลุ่มแกนนำได้เดินทางไปที่บริเวณจุดที่ผูกศพนิรนาม บริเวณบ้านท่าจำปา หมู่ 2 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน พร้อมกับนำหมวกรูปดาวแดง ที่มีลายเซ็นของนายสุรชัย เพราะเป็นหมวกที่สามีชอบสวมใส่ติดมาด้วย โดยป้าน้อยทำพิธีบอกกล่าวต่อวิญญาณที่เชื่อว่าเป็นศพสามีตน ก่อนที่จะพากันกลับที่พัก เพื่อจะมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ในวันรุ่งขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image