ถกเครียด! เหตุ ‘พลเอก’ รุกป่า ผู้ว่าฯแจงที่ดิน 2 แปลงอยู่ระหว่างขอเพิกถอน ชาวบ้านตำหนิ จนท.ไม่รักษาป่า

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมชาวบ้านหมู่ 10 บ้านพนานิคม ต.บ้านโตก อ.เมืองเพชรบูรณ์ จำนวนราว 20 คน นำโดย นายบรรจง คงอ้วน ประชุมหารือถึงแนวทางแก้ปัญหาผลกระทบจากกรณีบุกรุกป่าออกเอกสารสิทธิของอดีตพลเอก และยังไปทับที่ทำกินชาวบ้านเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีนายเสรี หอมเกสร นายอำเภอเมืองฯ พร้อมตัวแทนจากสำนักงานที่ดินจังหวัด และตัวแทนตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เข้าร่วม โดยนายบรรจงได้แจ้งถึงความเดือดร้อนและผลกระทบหลังจากที่จู่ๆ อดีตพลเอกรายนี้ไปออกเอกสารสิทธิทับพื้นที่ป่าและที่ดินทำกินหลังหมู่บ้าน โดยชาวบ้านไม่รู้เรื่อง กระทั่งต้องสูญเสียที่ดินทำกินและถูกขับไล่ในภายหลัง นอกจากนี้อดีตพลเอกยังปิดเส้นทางและห้ามใช้แหล่งน้ำซึ่งชาวบ้านอ้างว่าเป็นสาธารณประโยชน์

แฉ ‘พลเอก’ ดังรุกป่าเขาปางก่อ-ป่าวังชมภู จับคนขับพร้อมยึดแบ๊กโฮ (ชมคลิป)

นายบรรจงยังอ้างอีกว่า อดีตนายพลบุกรุกป่านับพันไร่ ยึดภูเขาทั้งลูก และมีการออกเอกสารสิทธิทั้งที่มาอยู่ได้ไม่นาน แต่ชาวบ้านกว่า 100 ชีวิตอยู่อาศัยที่หมู่บ้านมานานหลายชั่วอายุคน เอกสารสิทธิสักไร่เดียวก็ยังไม่มี จากนั้นยังเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนที่ชุดจับกุม นำโดย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน.จะเข้าจับกุมรถแบ๊กโฮรุกป่านอกเขตโฉนด ซึ่งนายบรรจงอ้างว่าได้พูดคุยกับนายชิต อินทระนก ผอ.ศูนย์ประสานงานป่าไม้ พร้อมแจ้งให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาดำเนินการตรวจสอบ แต่นายชิตวางโทรศัพท์ไปเฉยๆ จนตนเองต้องเดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง แต่ไม่พบนายสืบศักดิ์กลับได้เบอร์โทรศัพท์ พ.อ.พงษ์เพชรมาแทน จึงติดต่อแจ้งร้องเรียนไป จนมีการนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและจับกุม

นายบรรจงกล่าวว่า จากนั้นได้จี้ถามนายชิตที่ร่วมประชุมด้วยว่าจริงหรือไม่ ซึ่ง ผอ.ศูนย์ป่าไม้นั่งนิ่ง ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้แจ้งว่า โฉนดที่ดินที่อดีตพลเอกและภรรยาถือครองมีการออกโดย ส.ค.1 ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ในขณะที่นายสืบศักดิ์กล่าวสรุปโดยให้แยกแนวทางแก้ความเดือดร้อนของชาวบ้าน โดยเรื่องการโต้แย้งสิทธิและทวงคืนที่ดินทำกิน ให้ชาวบ้านรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยืนฟ้องร้องต่อศาล โดยจะหารือทางสำนักงานอัยการจังหวัดเพื่อให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้นายสืบศักดิ์ยังแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่ดินและป่าไม้รังวัดตรวจสอบแนวเขตที่ดินที่เป็นข้อพิพาท รวมทั้งมอบให้นายอำเภอเมืองตรวจสอบเรื่องเส้นทางและแหล่งน้ำ หากเป็นสาธารณประโยชน์ไม่สามารถปิดกั้นชาวบ้านได้

Advertisement

จากนั้นมีการสอบถามชาวบ้านว่ามีพยานหลักฐานที่จะนำไปสู่การพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของชาวบ้านก่อนจะมีการออกโฉนดหรือไม่ นายบรรจงและชาวบ้านแจ้งว่า มีหนังสือเอกสารที่ชาวบ้านได้ยื่นคำร้องต่อป่าไม้จังหวัดเมื่อปี 2530 ส่วนสวนมะขามหวานของชาวบ้านในที่ดินทำกิน ได้ถูกอดีตนายพลว่าจ้างรถแบ๊กโฮเข้าไปถากถางจนเหี้ยนเตียน แม้แต่ตอก็ไม่เหลือแล้ว

นอกจากนี้ ระหว่างการประชุมชาวบ้านยังจี้ถามถึงความคืบหน้าคดีจับรถแบ๊กโฮรุกป่า และยังสอบถามด้วยว่าจะมีการจับกุมอดีตนายพลรายนี้หรือไม่ เพราะหลักฐานชี้ชัดว่าเป็นผู้จ้างวานให้รถแบ๊กโฮไปถางป่านอกเขตโฉนด โดย พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน และกำลังจะมีการออกหนังสือไปยังสำนักงานที่ดินและทางป่าไม้ เพื่อให้ตรวจสอบรังวัดแนวเขตให้ชัดเจนว่ามีการบุกรุกป่าตามข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมหรือไม่ จากนั้นจึงค่อยออกหมายเรียกให้อดีตนายพลมาสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อหา หากพบว่าพยานหลักฐานชี้ว่ามีการกระทำผิดจริง

ทั้งนี้ ทางชาวบ้านยังแสดงความกังวลหากอดีตนายพลถูกจับกุม เกรงว่าจะโกรธแค้นชาวบ้านและจะใช้อำนาจอิทธิพลข่มขู่ชาวบ้านหนักยิ่งขึ้นไปอีก รวมถึงการไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เกิดความลักลั่น ขณะที่นายบรรจงยังกล่าวตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ปล่อยปละละเลยไม่รักษาป่า จนตกไปอยู่ในเงื้อมมือนายทุนหมด แตกต่างจากชาวบ้านที่ไม่มีเงินเดือนแต่รักและหวงแหนป่ายิ่งกว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้

Advertisement

ต่อมา นายสืบศักดิ์เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถาม จนมีการถามถึงการถือครองที่ดินของอดีตนายพลและคนใกล้ชิด ซึ่งมีการออกเอกสารสิทธิตามที่ชาวบ้านอ้างว่ามีจำนวนนับพันไร่ มีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยนายสืบศักดิ์เพียงแต่ชี้แจงว่า ตอนนี้มีโฉนดอยู่ 2 แปลงที่อยู่ในขั้นตอนเสนอกรมที่ดินเพื่อเพิกถอน จากนั้นชี้ไปยังเจ้าหน้าที่ที่ดินให้ช่วยชี้แจง ซึ่งตัวแทนที่ดินฯ ระบุว่า เป็นเรื่องเก่าที่มีการร้องเรียนมาตั้งแต่ต้น และไม่ได้ชี้ว่ามีแปลงไหนบ้าง แต่มีการตรวจสอบในบริเวณนี้ว่ามีการออกโฉนดกี่แปลง ซึ่งที่ปรากฏในครั้งแรกๆ มี 2 แปลง แปลงแรก 32 ไร่ อีกแปลงราว 9 ไร่ ที่พบว่ามีการออกเอกสารโดยมิชอบ แต่คราวนี้มีเรื่องใหม่จะต้องไปตรวจสอบเขตเพิ่มว่าจะเข้าหรือไม่เข้าเรื่องรถแบ๊กโฮบุกรุกป่า

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นอกจาก 2 แปลงนี้แล้วจะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ นายสืบศักดิ์ตอบว่า อยากเรียนว่าอะไรที่ถูกคือถูก และอะไรที่ผิดก็คือผิด ขอให้นายอำเภอและป่าไม้ไปดูในรายละเอียดก่อนได้ไหม และเท่าที่รู้คือขณะนี้มีการทำเรื่องเสนอกรมที่ดินให้เพิกถอนไปแล้ว 2 แปลง ส่วนแปลงที่เป็นข้อพิพาทมีเนื้อที่ราว 1 ไร่เศษ ที่บุกรุกป่าก็จะไปดูตรงนี้ ส่วนที่อื่น หากคิดว่าไม่ถูกต้องก็ดำเนินการได้ แต่ต้องไปตรวจสอบก่อน จะพูดกันปากเปล่าไม่ได้ ทั้งนี้ ชาวบ้านยังร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ไปปักป้ายแจ้งบอกว่าที่ดินบริเวณไหนอยู่ระหว่างถูกเสนอพิจารณาเพิกถอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image