เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายปราโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นายวัชรินทร์ สุตลาวดี นายอำเภอเมืองอุดรธานี นายธีระภัทร์ ผิวสวัสธ์ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.อุดรธานี พร้อมกำลัง อส.เมืองอุดรธานี ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 14 กองบิน 23 อุดรธานี มทบ.24 อุดรธานี และ อบต.นิคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือราษฎรบ้านหนองหลัก หมู่ 6 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ประสบภัยพายุลูกเห็บพัดถล่มกลางดึกที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ความเสียหายเกิดขึ้นตั้งแต่ถนนอุดรธานี-หนองบัวลำภู ศาลาพักผู้โดยสารพัง 2 หลัง ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ชั่วคราว และป้ายหาเสียงเลือกตั้งถูกกระแสลมพัดลงกับพื้นทั้งหมด ขณะที่ป้ายสัญญาณจราจรและป้ายทางเข้าหมู่บ้านพังบางส่วน ภายในหมู่บ้าน บ้านเรือนทุกหลังไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังคากระเบื้อง หลังคาเมทัลชีท และสังกะสี ถูกพายุลูกเห็บตกถล่มเป็นรู ข้าวเปลือกในยุ้งฉางเสียหาย ต้นไม้ใหญ่หักโค่น ไฟฟ้าดับตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่มา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชการได้ใช้ศาลากลางบ้านที่หลังคากระเบื้องทะลุกว่าร้อยรูเป็นศูนย์อำนวยการช่วยเหลือ โดยมีชาวบ้านทยอยมาแจ้ง ขอกำลังไปย้ายที่นอน หมอน มุ้ง เก้าอี้ ที่เปียกน้ำออกมาตาก และตัดต้นไม้ โดย มทบ.24 นำรถประกอบอาหารพระราชทานมาประกอบอาหารช่วยเหลือประชาชน และกำลังพลที่มาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บ 2 คน รายแรกเป็นหญิงออกไปเก็บของถูกลมพัด ลูกเห็บตกลงศีรษะแตก และผู้ชายออกไปดูจานดาวเทียม ลูกเห็บตกลงโดนเข่าซ้าย เขียวช้ำรุนแรง และมีผู้ป่วยติดเตียง 3 ราย ญาติย้ายไปในที่ปลอดภัยแล้ว
นางมลฤดี ผาสิงห์ อายุ 35 ปี ราษฎรบ้านหนองหลัก นำ “ลูกเห็บ” ที่เก็บไว้ในกะละมังมาให้ดู ซึ่งมีขนาดใหญ่เท่าลูกมะนาว พร้อมเล่าว่า ฝนตกลงมาราว 4 ทุ่ม หลังจากมีลมพัดแรงก็มีลูกเห็บตกลงมาราว 10 นาที ซึ่งมีขนาดใหญ่มากจนหลังคาทะลุ ประกอบกับมีฝนต่อเนื่องและฟ้าร้องคำรามอีกกว่าครึ่งชั่วโมง ฝนรั่วลงมาในบ้านจนนอนไม่ได้ ไฟฟ้าดับมืดไปหมด ไม่มีใครกล้าออกจากบ้าน โทรศัพท์มือถือก็ปิด กลัวฟ้าจะผ่า ไม่ได้ถ่ายภาพเอาไว้เลย
“มีเพียงนางกัลยา ผาสิงห์ อายุ 53 ปี แม่สามี เปิดประตูหน้าบ้านไป เห็นลูกเห็บยักษ์ขนาดเท่ากำปั้น กองรวมกันอยู่หน้าประตูจำนวนมาก จึงเก็บใส่ถุงพลาสติกเข้ามาในบ้าน บอกว่าจะเอาเก็บไว้ให้ลูกหลานดู แล้วเอาใส่กะละมังไปใส่ตู้เย็นไว้ แต่ไฟก็ดับมาตั้งแต่ฝนตก ทำให้ลูกเห็บละลายลงไป แต่เพราะเก็บไว้มากจึงเหลืออยู่ ขณะที่บ้านอื่นก็มีการเก็บด้วย แต่เก็บไว้ไม่มาก จึงละลายเหลือเพียงขนาดเล็ก” นางมลฤดีกล่าว
นายปราโมทย์กล่าวว่า พายุที่พัดอย่างรุนแรงคืนที่ผ่านมาทำความเสียหายในพื้นที่ อ.เมือง อ.เพ็ญ และอีกหลายอำเภอ ทุกฝ่ายให้ความช่วยเหลือ และเร่งสำรวจความเสียหาย ขณะนี้เกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ทั้ง อ.เมือง อ.บ้านผือ อ.กุมภวาปี และ อ.ศรีธาตุ สามารถซ่อมแซมได้บางส่วน สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายสูงสุดคือบ้านหนองหลัก ต.นิคมสงเคราะห์ บ้านเรือนเสียหายทุกหลัง รวมทั้งวัดในหมู่บ้าน เราได้ตั้งศูนย์ฯที่ศาลากลางบ้าน ประสานงานเร่งช่วยเหลือในทุกด้าน
“ที่นี่หลังคาทุกบ้านเสียหายทั้งหมด สถานีตรวจอากาศรายงานว่ายังจะมีฝนตกลงมาในวันนี้ แต่จะไม่รุนแรงมากนัก ซึ่ง ปภ.14 ส่งรถไฟสนามมาช่วยเบื้องต้น และได้เร่งรัดให้ซ่อมแซมไฟฟ้าเร็วที่สุด ควบคู่ไปกับการซ่อมแซมบ้านบางส่วน ให้ประชาชนหลับนอนได้คืนนี้ โดยมีกำลังของทหารอากาศ ทหารบก รวมทั้งครัวพระราชทาน ขณะที่พื้นที่รอบนอกก็กำลังช่วยเหลือ หากต้องการความช่วยเหลือ จังหวัดก็พร้อมส่งความช่วยเหลือเข้าไปทันที”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสำรวจความเสียหายล่าสุดในพื้นที่ อ.เมือง 9 ตำบล 28 หมู่บ้าน 775 หลังคาเรือน, อ.เพ็ญ 4 ตำบล 27 หมู่บ้าน 275 หลังคาเรือน, อ.กุมภวาปี 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน 22 หลังคาเรือน รวมทั้งสิ้น 3 อำเภอ 16 ตำบล 62 หมู่บ้าน 1,072 หมู่บ้าน ยุ้งข้าว 2 หลัง วัด 1 แห่ง และโรงเรียน 1 โรง
