เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 45 พื้นที่เกาะสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย สำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย เข้าตรวจสอบอุโมงค์ปริศนาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านใต้ ม.5 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย อีกครั้งเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าอุโมค์ขนาดใหญ่มีใครเป็นเจ้าของ และสร้างอยู่ในเนื้อที่ของใคร รวมทั้งมีใบอนุญาตก่อสร้างหรือไม่
ทั้จากการตรวจสอบพบนายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย เปิดเผยว่า อุโมงค์ดังกล่าวมีขนาด 3.5 เมตร (ม.) สูง 3.5 ม.และยาว 84 ม. สร้างอยู่ในโฉนดที่ดินจำนวน 2 แปลง โดยปากอุโมงค์จะอยู่ในโฉนดเลขที่ 11623 เนื้อที่ 4 ไร่ 3 งาน 35.3 ตารางวา (ตร.ว.) และ ปลายอุโมงค์จะอยู่ในโฉนดเลขที่ 13405 เนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 99.9 ตร.ว.ยู่ในพื้นที่ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีชื่อบริษัท “บ้านใต้บีช จำกัด” เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการออกถูกต้องตามระเบียบและขั้นตอนของกฎหมายแล้ว
เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า สำหรับการขออนุญาตก่อสร้างอุโมงค์ไม่ปรากฎการขออนุญาตก่อสร้างอาคารกับเทศบาลนครเกาะสมุย โดยเจ้าหน้าที่สั่งการให้ผู้ครอบครองนำเอกสารมาแสดงเกี่ยวกับการขออนุญาตก่อสร้างอาคารต่อเจ้าหน้าที่ ถ้าไม่นำเอกสารใดมาแสดงจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 เรื่องการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร มีโทษความผิดตามมาตรา 21 ประกอบมาตรา 65 ผู้ใดไม่ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากนี้จะติดประกาศห้ามใช้อุโมงค์ดังกล่าว พร้อมกำหนดระยะเวลาให้บริษัท บ้านใต้บีช จำกัด เข้าไปดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้อง หากมีการเพิกเฉยหรือไม่ไปขออนุญาตก็จะมีการให้รื้อถอนอาคารต่อไป
ด้านแหล่งข่าว แจ้งว่า ที่ดินแปลงที่มีการก่อสร้างอุโมงค์ยังมีที่ดินแปลงติดกันอีกทั้งหมด 9 แปลง เพื่อเตรียมก่อสร้างบ้านพักตากอากาศขาย ส่วนบริเวณจุดที่มีการก่อสร้างอุโมงค์บริเวณปลายอุโมงค์ที่เห็นวิวทะเลจะมีการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศของเจ้าของที่ดิน แต่ต่อมาได้มีการหยุดโครงการไปโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ
