ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “น้องเซียน เณรน้อย” ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ความยาว 12 วินาที ภาพนักศึกษาหญิงโต้เถียงกับตำรวจจราจร สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังถูกตำรวจเรียกตรวจรถเพื่อกวดขันวินัยจราจร โดยระบุข้อความว่า “คนของประชาชน !!! ไม่ช่วยเหลือ แล้วบอกว่าจะฟ้องหมิ่นประมาท เด็กจะไปสอบก็ไม่สนใจบอกให้เดินไปเองถ้าจะไปสอบ #คุณขอตรวจใบขับขี่แล้วดับเครื่องแล้วพอคุณตรวจใบขับขี่แล้วไม่ช่วยสตาร์ต ขอความช่วยเหลือแล้วก็ไม่ช่วย #ตำรวจสุราษฎร์ธานี
นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Niw Pattarporn” ได้แชร์โพสต์และข้อความว่า “ตำรวจเป็นอะไร ให้น้องจอดรถตรวจใบขับขี่แล้วรถนางดับ ให้ช่วยสตาร์ตก็ไม่ช่วย คือมันต้องสตาร์ตตีน ช่วยแค่นี้ยากตรงไหน ยังมีหน้ามาบอกว่าถ้าสตาร์ตไม่ติดก็เดินไป น้องก็ต้องสอบป่ะ น้องก็ไปคนเดียว แย่มาก แย่มากๆ ซึ่งมีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของตำรวจ
จากการตรวจสอบพบว่า สถานที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ปตท.บางใหญ่ ถนนชนเกษม ใกล้สี่แยกบางใหญ่ ขาเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เป็นภาพนักศึกษาหญิงต่อว่าตำรวจที่เรียกตรวจโดยบอกว่า จะรีบไปสอบในเวลา 9 โมง แล้วรถจักรยานยนต์ดับโดยไม่ช่วยเหลือสตาร์ตเครื่องทั้งที่ตรวจไม่มีอะไรผิด ถ้าเป็นลูกของตำรวจจะรีบไปสอบจะช่วยไหม ขณะที่ตำรวจโต้กลับว่า ไม่ได้ยินว่าจะไปสอบ 9 โมง และไม่ได้บอกให้เดินไปเอง
ต่อมา พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ทราบเรื่องได้มีวิทยุด่วนที่สุดถึง พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ให้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางการยกระดับการบริการประชาชนระดับสถานีตำรวจ โดยมีข้อความว่า ด้วยปรากฏว่ามีการเผยแพร่คลิปวิดีโอทางสื่อโซเชียลออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ที่ได้แสดงกิริยาวาจาไม่เหมาะสมและไม่ให้ความช่วยเหลือประชาชนตามสมควร เหตุเกิดที่บริเวณสี่แยกบางใหญ่ ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี
จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นอาจทำให้เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจโดยส่วนรวม และไม่เป็นการปฏิบัติการตามแนวทางการยกระดับการบริการประชาชนระดับสถานีตำรวจ จึงให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.ให้ ร.ต.อ.วรรณรัตน์ สีหน้า รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏตามคลิปวิดีโอตามที่มีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลออนไลน์หยุดการปฏิบัติหน้าที่ด้านการจราจรเป็นเวลา 30 วัน
2.จัดให้มีการอบรมตำรวจที่ปฏิบัติงานวันเกิดเหตุเพื่อเป็นการเสริมสร้างความประพฤติและระเบียบวินัยตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 ลงวันที่ 3 ต.ค.2537 เรื่องมาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติ ระเบียบวินัย ของข้าราชการตำรวจทุกสัปดาห์
3.กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีทุกนายในการปฏิบัติหน้าที่ให้ถือปฏิบัติตามแนวทางการยกระดับการบริการประชาชน ระดับสถานีตำรวจโดยเคร่งครัด ทั้งนี้หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกจะพิจารณาข้อบกพร่องผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต่อไป
4.ให้รายงานผลดำเนินการตามข้อ 1 พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีทราบภายในวันที่ 4 มีนาคม 2562 ส่วนการดำเนินการตามข้อ 2 ให้รายงานผลการปฏิบัติพร้อมภาพถ่ายให้ภูธรจังหวัดทราบทุกสัปดาห์จนกว่าจะครบระยะเวลาการหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ 1
