ลูกชายทรพีเมาซ้อมแม่น่วม ยัวะแม่ไม่ไปซื้อมาม่าให้

กรณีโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์เรื่องลูกเมาหนัก หลังใช้เเม่วัย 80 ไปซื้อมาม่า แต่เเม่ป่วยไข้ไม่สามารถไปซื้อมาม่าให้ได้ จึงได้กระทืบเเม่สาหัส ทั้งตีศอกเบ้าตา ต่อยเสยปลายคาง ถึงขนาดเย็บที่ริมฝีปากแตก 5 เข็ม ตาซ้ายบวมปูดและมีเลือดคั่งบริเวณลูกตาขาวข้างซ้ายนั้น เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ผู้สื่อข่าวมติชนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบ ยายล้วน คําบุญมี อายุ 80 ปี หนีลูกชายมาอาศัยอยู่กับลูกสาวหลังเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร

โดยลูกสาว คือ นางบัวไข คำบุญมี อายุ 42 ปี เล่าว่า คุณยายล้วน คําบุญมีลูกทั้งหมด 9 คน ลูกสาว 6 คน ลูกชาย 3 คน ทุกคนต่างมีครอบครัวกันหมดแล้ว ยกเว้นพี่ชาย คือ นายวิลัย คำบุญ อายุ 44 ปีที่ยังไม่มีครอบครัวและอาศัยอยู่กับแม่ ปกตินายวิลัยเป็นคนชอบกินเหล้าเมาตลอดทั้งวัน ไม่ทำงานทำการ โดยได้เงินสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนละ 300 บาทก็เอามาซื้อเหล้ากิน บางครั้งเมื่อเงินหมดได้ขู่กรรโชกเอาเงินจากแม่เพื่อไปซื้อเหล้าบ่อยครั้ง บางครั้งหยิก บางครั้งทุบตี บางครั้งดึงรัดตัวแม่ เนื่องจากครั้งนี้แม่ไม่ยอม เพราะแม่ป่วยและเพิ่งกลับมาจากรักษาตัวจากโรงพยาบาล หลังจากพี่ชายใช้ให้แม่ไปซื้อมาม่ามาให้ “เมื่อแม่ไม่ยอมไปให้จึงโมโหอย่างหนัก เชื่อว่าด้วยพิษสุราจึงทำให้พี่ชายทำร้ายร่างกายแม่บอบช้ำ โดยแม่ต้องเย็บ 5 เข็มที่ริมฝีปากและตาบวมเขียวช้ำ ตามเนื้อตามตัวแขนขายังมีรอยฟกช้ำดำเขียว หลังจากเกิดเหตุขึ้น จึงได้นำแม่ไปส่งโรงพยาบาล พร้อมเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภอ.ทุ่งเสลี่ยม” นางบัวไข กล่าว นางบัวไข กล่าวว่า ปัจจุบันคดียังไม่มีการดำเนินการหรือจับคนร้ายไปดำเนินคดีแต่อย่างใด เกรงพี่ชายจะหวนกลับมาทำร้ายแม่อีก จึงได้ส่งรูปที่แม่โดนทำร้ายไปให้หลานนำไปโพสเฟสบุ๊ค เพื่อขอความเห็นใจจากสังคมออนไลน์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวพี่ชายมาลงโทษโดยเร็ว พร้อมอยากให้ช่วยรักษาอาการติดเหล้าให้กลับมาเป็นคนดีของสังคม ด้านพ.ต.ท.วันชาติ เทพวงษ์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภอ.ทุ่งเสลี่ยม กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะการทำร้ายแม่ถือเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ นอกจากผิดแล้วยังบาปอีกด้วยแต่ขณะที่รับแจ้งความในวันนั้น นางล้วนมีอาการไม่สบายมาก อยากกลับไปพักผ่อนจึงให้กลับไปพักผ่อน และต้องสอบปากคำกันใหม่ โดยนัดให้มาสอบปากคำในช่วงบ่ายของวันที่ 6 มีนาคม แต่ยังไม่ถึงเวลานัดและได้นำเรื่องมาโพสต์เสียก่อน พ.ต.ท.วันชาติ กล่าวว่า ส่วนการดำเนินการนั้นเจ้าหน้าที่จะได้ประสานไปที่โรงพยาบาลเพื่อขอเอกสารยืนยันการรักษาและส่งฟ้องต่ออีกครั้งหนึ่งโดยขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมสอบคดี เนื่องจากเป็นคดีความรุนแรงในครอบครัว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image