“โคราช”จัดเสวนาเนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สร้างความรู้เสริมความเข้าใจประชาชนก่อนถึงวันพระราชพิธี
วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ชาวไทยต่างได้รับข่าวดีอันเป็นมหามงคลรับปีใหม่ เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 นับเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของคนไทย และ อาจจะเป็นเพียงครั้งเดียวในช่วงชีวิตของหลายคนที่จะได้อยู่ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์อันสำคัญยิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระราชพิธีสำคัญของทุกประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ด้วยพิธีนี้เป็นการเฉลิมพระเกียรติยศว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์โดยบริบูรณ์ และเพื่อความเป็นสวัสดิมงคลของประเทศชาติ และราชอาณาจักร ซึ่งหากนับตั้งแต่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อ 5 พฤษภาคม 2493 การตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนี้จึงถือว่าเกิดขึ้นในรอบ 69 ปี การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลของประเทศ มีกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2562 คือ
วันที่ 6 เมษายน มีพิธีพลีกรรมตักน้ำจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ในกรุงเทพมหานคร และ 76 จังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
วันที่ 8 เมษายน พิธีทำน้ำอภิเษก ณ พระอารามหลวงประจำจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
วันที่ 9 เมษายน เวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ณ พระอารามหลวง ประจำจังหวัด
วันที่ 18 เมษายน เสกน้ำอภิเษก ประกาศชุมนุมเทวดา ทำน้ำเทพมนต์ เจริญพระพุทธมนต์ ทำน้ำพระพุทธมนต์ ที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
วันที่ 19 เมษายน แห่เชิญน้ำอภิเษก จากวัดสุทัศนฯไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งในเรื่องของน้ำนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับสั่งให้เป็นน้ำที่สะอาด และมีการพิสูจน์ เพราะเป็นน้ำมงคลใช้ในพระราชพิธี
วันที่ 22-23 เมษายน เป็นการจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ แกะพระราชลัญจกร และจารึกพระสุพรรณบัฏพระบรมวงศ์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ส่วนในช่วงเดือนพฤษภาคม วันที่ 2 พฤษภาคม ทรงถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า และทรงบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
วันที่ 3 พฤษภาคม ประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เวลา 10.00 น. เชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ พระราชลัญจกร จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มายังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
วันที่ 4 พฤษภาคม สรงพระมุรธาภิเษก ณ ชาลาพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน (จัก-กะ-พัด-พิ-มาน) และทรงรับน้ำอภิเษก ณ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ (อัด-ถะ-ทิด-อุ-ทุม-พร-ราด-ชะ-อาด) และทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ขัตติยราชวราภรณ์ และพระแสง ณ พระที่นั่งภัฐรบิฐ (พัด-ทะ-ระ-บิด) เสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัยฯ เสด็จฯ ขบวนราบใหญ่ ไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ปราสาทพระเทพบิดร และพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
วันที่ 5 พฤษภาคม พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค
วันที่ 6 พฤษภาคม เสด็จออก ณ สีหบัญชร ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท (สุ-ทัย-สะ-หวัน-ยะ-ปรา-สาท) พสกนิกรเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นเสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท คณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล
ขณะที่พระราชพิธีเบื้องปลาย ประกอบด้วย เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดในช่วงเสด็จพระราชดำเนินไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม
สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระราชพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ และลึกซึ้งด้วยความหมายต่างๆ ที่อยู่ในเครื่องประกอบพระราชพิธี ล้วนแต่เป็นมรดกที่ล้ำค่ามาแต่โบราณ และเป็นของที่ใช้สำหรับพระมหากษัตริย์เท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่สามัญชนจะมีโอกาสเห็นได้ยาก การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการเฝ้าชมพระราชพิธีครั้งสำคัญ จึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนเข้าใจความหมายในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้ลึกซึ้งและเข้าใจมากขึ้น ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาเห็นความสำคัญของการเตรียมพร้อมในการเสริมความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน
นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสำนักพระราชวังออกประกาศเรื่อง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 โดยส่วนหนึ่งของพระราชพิธีคือ การเตรียมน้ำอภิเษก และน้ำสรงพระมุรธาภิเษก ซึ่งมีการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ และจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งนำมาใช้ประกอบพระราชพิธีด้วย
ในฐานะที่เทศบาลนครนครราชสีมา เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีแนวนโยบายการบริหารงาน และการดูแลพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งมีแนวทางพัฒนาการศึกษา ส่งเสริมความรู้ประชาชน ตลอดจนส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม จึงตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความรู้ประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีดังกล่าว ซึ่งเป็นพระราชพิธีสำคัญที่มีความละเอียดอ่อน ลึกซึ้งด้วยความหมาย เพื่อให้เกิดความเข้าใจในพิธีดังกล่าว
“เทศบาลนครนครราชสีมา จึงร่วมกับเครือมติชน ดำเนิน โครงการเผยแพร่ และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจ เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยได้จัดทำข้อมูล จัดนิทรรศการที่เกี่ยวข้อง และการเสวนา เสวยราชสมบัติกษัตรา เพื่อสร้างความรับรู้อย่างรอบด้าน และความเข้าใจแก่ชาวเทศบาล ชาวนครราชสีมา จังหวัดใกล้เคียง และประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ งานจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2562 เวลา 13.00 น. ที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 ชั้น G เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ขอเชิญประชาชนผู้สนใจเข้ารับฟังการเสวนาอย่างพร้อมเพรียงกัน” นายสุรวุฒิกล่าว
สำหรับนิทรรศการและสัมมนาสัญจรครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เรื่องพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในโครงการเผยแพร่ และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจ เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่จะเกิดขึ้นนี้ ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ท่าน คือ ผศ.ดร.นนทพร อยู่มั่งมี อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และ ผศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ร่วมสร้างความเข้าใจ
งานนี้ จึงนับว่าเป็นครั้งสำคัญในชีวิตของคนไทย ที่จะได้รับรู้ และเข้าใจในคติโบราณราชประเพณี พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
การเตรียมน้ำศักดิ์สิทธิ์
สําหรับการเตรียมตักน้ำในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทำน้ำอภิเษก ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจาก 108 แห่งทั่วประเทศ โดย จ.นครราชสีมา พบว่า ต้นน้ำลำตะคอง ถือเป็นแม่น้ำสำคัญ ที่เป็นจุดกำเนิดแม่น้ำมูล ก็คือ น้ำจากบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ผืนป่ากว้างใหญ่ และมีตำนานเล่าขานกันมาอย่างยาวนาน และเป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศไทย ส่วนด้านของ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีคลองต่างๆ หลายสาขาไหลมารวมกันที่จุด คลองอีเฒ่า ตรงจุดที่คณะสำรวจได้เลือก เนื่องจากต้นน้ำลำตะคองจะไหลมายังน้ำตกเหวสุวัต แล้วไหลลงมาตามลำตะคอง ผ่าน อ.ปากช่อง ลงสู่เขื่อนลำตะคอง ผ่าน อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.เมือง แล้วลงสู่แม่น้ำมูล จึงเชื่อได้ว่าแหล่งน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ สะอาด และศักดิ์สิทธิ์
โดยจะมีการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำทั่วประเทศ และทำพิธีอภิเษกบริเวณน้ำตกเหวสุวัต ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และทำพิธีเสกน้ำในวัดตามพื้นที่ต่างๆ และในวันที่ 18 เมษายน จะทำพิธีเสกน้ำ และพิธีอภิเษกน้ำ ณ พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร จ.นครราชสีมา