จากกรณีที่ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก นำกำลังเข้าจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาระดับมหาเศรษฐีด้านธุรกิจก่อสร้าง พร้อมพวก รวม 4 คน เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งในชั้นสอบสวนทั้ง 4 คนให้การปฏิเสธ
โดยอัยการจังหวัดทองผาภูมิเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กับพวก ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 ใน 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต 5.ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย และ 6.ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังจากผ่านการสอบพยานโจทก์-จำเลย ไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ทั้งฝ่ายโจทก์-จำเลย ก็ได้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีนี้ต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิได้นัดฟังคำพิพากษาในวันนี้นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.10 น.วันที่ 19 มีนาคม ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1 เดินทางมาด้วยรถยนต์ Range Rover สีดำ ป้ายทะเบียนแดง ฬ 1009 กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิฑูรย์ พรายแย้ม ทนายความส่วนตัว ส่วนนายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 พร้อมด้วย นายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นายปิยพัชร์ สายพิณ นายปราโมช เล้าเกตุกรรณ์ และนายวิภาช อัมพรกลิ่นแก้ว ทนายความของจำเลยทั้ง 4 ได้นั่งรถอีกคันตามกันมา
โดยนายเปรมชัยไม่ได้ใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินเหมือนเช่นที่ผ่านมา และมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีความวิตกกังวลใดๆ ก่อนทั้งหมดจะเดินขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดีที่ 2 ที่อยู่บนชั้น 2 ของศาลทันที โดยไม่ยอมปริปากให้สัมภาษณ์ใดๆ กับกองทัพสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่มาปักหลักรายงานข่าวนี้กันเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 08.20 น. น.ส.อรยุพา สังขะมาน หัวหน้าฝ่ายวิชาการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร พร้อมด้วยทีมงาน 3 คน ได้เดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษาด้วย พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภายหลังจากฟังคำตัดสินวันนี้แล้ว จะมีแถลงการณ์ในส่วนของมูลนิธิสืบฯ นอกจากนี้จะมีการจัดงานเสวนาทางวิชาการที่มูลนิธิสืบฯในวันพรุ่งนี้ด้วย
จากนั้นเวลา 09.00 น. นายสมโภชน์ ลิ้มตระกูล อธิบดีอัยการ ภาค 7 นายพนมฤทธิ์ หอมนิจสกุล อัยการจังหวัดทองผาภูมิ โจทก์ นายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) อดีตหัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางมาถึงศาล โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ เช่นกัน
โดยนายวิเชียรได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เราได้ทำเต็มที่แล้ว ส่วนผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็น้อมรับคำตัดสินของศาล ทั้งนี้ ตนไม่คาดคิดว่าจะมีประชาชนให้ความสนใจคดีเสือดำมากเช่นนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้มาตลอด ซึ่งตนจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่ท้อถอย และขอให้สื่อมวลชนรอฟังคำพิพากษาไปพร้อมๆ กัน
ทั้งนี้ ศาลอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวปฏิบัติงานหรือรายงานข่าวได้เฉพาะบริเวณนอกตัวอาคารศาลเท่านั้น และไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกรวมทั้งสื่อมวลชนเข้ารับฟังการพิจารณาคดี ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ และทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (ฉก.ลาดหญ้า) กองกำลังสุรสีห์ ที่มาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในบริเวณศาลและโดยรอบ พร้อมกันนี้ทางทหาร ฉก.ลาดหญ้า ยังได้หารือกับเจ้าหน้าที่ศาลเพื่อขอเข้าร่วมรับฟังในห้องพิจารณาคดีด้วย แต่เนื่องจากพื้นที่ในห้องพิจารณาคดีมีความคับแคบและไม่เพียงพอที่จะรองรับได้ จึงไม่สามารถเข้าร่วมรับฟังได้ ซึ่งคาดว่าศาลจะใช้เวลาอ่านคำพิพากษานานพอสมควร โดยการพิจารณาคดีในวันนี้มีนายไพบูลย์ วิหกหงษ์ ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณา
ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
