กงสุลไทยพาผู้ค้าจีนดูสวนกล้วย อ.พญาเม็งราย แจงปลอดภัยไร้สารเคมีตกค้าง

วันที่ 19 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.สมิท ธรรมเชื้อ กงสุล (ฝ่ายเกษตร) ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน และนายภูเบศร์ จูละยานนท์ นายอำเภอพญาเม็งราย นำคณะตัวแทนการค้าจากนครกว่างโจว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การเกษตร เดินทางลงพื้นที่ ต.เม็งราย อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เพื่อตรวจดูสวนกล้วยหอมพร้อมเข้าศึกษาดูขั้นตอนการปลูก และการบำรุงรักษากล้วยหอม ที่ปลูกและได้ส่งออกไปขายยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ปลูกกว่า 8 แสนต้น บนเนื้อที่ 2,700 ไร่ และปัจจุบันกล้วยหอมให้ผลผลิตสามารถส่งออกไปจีนแล้ว กว่า 300 ตัน ซึ่ง หลังการลงพื้นที่และพูดคุยกับชาวสวนกล้วยหอมและตัวแทนกลุ่มทุนจีนที่มาลงทุน ปลูกกล้วยหอมในพื้นที่อ.พญาเม็งราย ทางกงสุล (ฝ่ายเกษตร)
201605191211231-20021028190531
ดร.สมิท เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องมาดูเพราะมีกระแสข่าวว่าการปลูกกล้วยหอมในประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ จากการใช้สารเคมี จนทำให้ลงแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ทำให้ปลาตายรวมทั้งมาดูปัญหาการขนส่งสินค้าเส้นทางสาย อาร์ 3 เอ จากไทย ไปจีนด้วย เพื่อ นำอุปสรรคต่างๆ ที่พบไปเสนอและร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับทางการจีน เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเชื่อมั่นในการบริโภคสินค้าเกษตรของไทย โดยเฉพาะผลไม้ไทย เพราะจีนถือเป็นตลาดรองรับสินค้าเกษตรและอาหารตลาดใหญ่ของไทย ฉะนั้นการมาดูสวนกล้วยในครั้งนี้ถือเป็นการมาดูขั้นตอนการปลูกกล้วยหอมและการใช้สารเคมีด้วย ซึ่งพบว่าไม่ได้มีดังที่เป็นข่าวใน สปป.ลาว ซึ่งกล้วยหอมที่ปลูกในไทยนับเป็นกล้วยหอมที่รับประทานได้อย่างปลอดภัย และเชื่อว่าการส่งออกกล้วยหอม และผลไม้ไทยทุกชนิด ทั้งทุเรียน มังคุด และผลไม้อื่นๆ รวมทั้งข้าวหอมมะลิไปยังประเทศจีนจะมีการขยายตัวเพิ่มมูลค่าสูงขึ้น
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image