“ม.นเรศวร” เดินหน้าวิจัยยาและสารสกัดจากกัญชา หลังได้รับอนุญาตมีไว้ครอบครองเพื่อการวิจัยคาดจะได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบใน1ปี

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เดินหน้าวิจัยยาและสารสกัดจากกัญชา หลังได้รับอนุญาติให้มหาวิทยาลัยนเรศวรมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อทำการวิจัย คาดว่าภายใน 1 ปี จะเห็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบ และ 5 ปี จะได้ยาทีมีคุณภาพ
เมื่อเวลา 17.00 น วันที่ 20 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วย รศ.ภญ.จารุภา วิโยชน์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ รศ.ดร.ภก.เนติ วระนุช ผู้อำนวยการสถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ คณะเภสัชศาสตร์ และ รศ.ดร.ภญ.กรกนก อิงคนินันท์ อาจารย์ภาควิชาเภสัชเคมีและเภสัชเวท ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์การมีกัญชาในครอบครองเพื่อทำการวิจัย ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงกระบวนการและทิศทางการพัฒนาวิจัยเกี่ยวกับกัญชา หลังได้รับอนุญาตมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อทำการวิจัย

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เริ่มทำการวิจัยเกี่ยวข้องกับการชาตั้งแต่ปี 2561 และมีการขอใบอนุญาตครอบครองและผลิตสารสกัดกัญชา จนได้รับอนุญาตมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อทำการวิจัย ไม่ได้รับอนุญาตในการเพาะปลูกแต่อย่างใด ทำให้ทางคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เริ่มเดินหน้าศึกษาวิจัยและสารสกัดจากกัญชา โดยได้รับความอนุเคราะห์วัตถุดิบเป็นกัญชาแห้ง จาก ปชปส. นอกจากนี้ยังมีนักวิจัยจากหลายคณะที่จะเข้ามาทำงานในลักษณะบูรณาการ เพื่อวิจัยและพัฒนากัญชาและกัญชง ให้สู่การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รศ.ภญ.จารุภา กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีงานวิจัยจากกัญชาหลายโครงการ แต่ละโครงการก็ต้องทำเรื่องขอองค์กรเภสัชฯ ทุกครั้ง เพื่อป้องกันการนำกัญชาไปใช้ในทางที่ผิด โดยโครงการนั้นประกอบด้วยโครงการพัฒนาแผ่นแปะผิวหนังที่ตอบสนองต่ออุณหภูมิที่มีส่วนผสมจากสารสกัดกัญชา, โครงการพัฒนาสกัดกัญชาเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยา, การพัฒนาผลิตภัณฑ์สารสกัดสำหรับใช้แก้ปวดในรูปแบบการบริหารยาใต้ลิ้น ,โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสารสกัดกัญชาเพื่อรักษาอาการผิดปกติทางผิวหนัง, โครงการพัฒนาวิธีการแยกสารและจัดทำสารมาตรฐานแคนนาบินอยด์จากกัญชา, โครงการบูรณาการ การวิจัยและพัฒนากัญชงเพื่อการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยจะมีการวิจัยตั้งแต่การสำรวจสายพันธุ์และความหลากหลายทางชีวภาพของกัญชง, การพัฒนาการปลูกในระบบปิดและการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อการพัฒนาวิธีการสกัด การจัดเตรียมสารสกัดกัญชงมาตรฐานที่มีสาร cbd สูง ,การควบคุมคุณภาพสารสกัดและวัตถุดิบการชง การทดลองฤทธิ์ต้านอักเสบและแก้ปวดในสัตว์ทดลองรวมทั้งการศึกษาความปลอดภัยของสารสกัดในระยะเฉียบพลันและเรื้อรังการศึกษาทางเภสัชจลนศาสตร์ และพัฒนาโดยพันธุ์ต้นกัญชง เพื่อการใช้ประโยชน์ 3 ผลิตภัณฑ์ได้แก่ ปฏิบัติอมใต้ลิ้นสารสกัดกัญชงสำหรับใช้แก้ปวด แผ่นปิดแผลไฟโบรอินผสมแคนนาบิไดออล จากกันชงสำหรับรักษาแผลที่หายช้า และผลิตภัณฑ์ impregnated gauze เพื่อมีสารสกัดกัญชงทำความสะอาดช่องปากสำหรับผู้ป่วยที่มีแผลในช่องปาก เป็นต้น

ด้านรศ.ดร.ภญ.กรกนก กล่าวว่า งานวิจัยที่ทำอยู่ในขณะนี้คือการหาวิธีเตรียมสารสกัดกัญชามาตรฐานเพื่อให้มีทั้ง THC และ CBD ในปริมาณที่เหมาะสมการพัฒนาวิธีการแยกและวิเคราะห์สาร cannabinoids ศึกษาการควบคุมคุณภาพของสารสกัดตลอดจนการตั้งสำหรับเภสัชภัณฑ์ต้นแบบ ทั้งในลูกอมใต้ลิ้น ใช้ภายนอกซึ่งจะทำให้ได้องค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดสำหรับการศึกษาวิจัยครั้งต่อไป เมืองไทยมีความพร้อมในเรื่องวัตถุดิบปลูกต้นกัญชาที่มีคุณภาพ ซึ่งก็ต้องรอต่อไปว่าจะได้รับอนุญาตด้วยหรือไม่ จากนั้นก็สามารถนำวัตถุดิบนั้นมาสกัดโดยวิธีที่พัฒนาขึ้นและ ตั้งตำรับเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ศึกษาวิจัยด้านอื่น เช่นการพิสูจน์ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นได้ ซึ่งแต่ละโครงการนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการวิจัย คาดว่าในระยะเวลา 1 ปี 1 โครงการ ก็จะพอเห็นสารต้นแบบ และคาดว่าตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ก็จะสามารถนำยาที่ได้จากวิจัยและสารสกัดกัญชามาใช้ในวงการแพทย์ได้ ซึ่งทุกอย่างจะต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยและใช้อย่างมีคุณภาพ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image