วันนี้ 20 พฤษภาคม 2559 เมื่อเวลา 03.00 น. ช้างป่าเพศผู้ หรือช้างสีดอ ลักษณะหูแหว่ง ตาบอดด้านขวา อายุกว่า 40 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เรียกมันว่าเจ้าแหว่ง ได้พังรั้วเข้าไปภายในบริเวณบ้าน หมู่ 2 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ของนางจินตนา จันทะเกษ อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการครู ที่เกษียณราชการไปแล้ว โดยช้างตัวดังกล่าวได้ใช้งวงโน้มกิ่งมะม่วงขนาดใหญ่แล้วกระชากจนหักโค่นลงมาและเก็บกินลูกมะม่วงที่ร่วงหล่นลงมากองอยู่กับพื้นอย่างเอร็ดอร่อย โดยพบว่ามีต้นมะม่วงหักโค่นจำนวน 5 ต้น นอกจากนี้ยังได้ใช้งวงทำลายศาลานั่งเล่นที่สร้างเอาไว้ใกล้กับต้นมะม่วงจนหลังคาที่มุงด้วยกระเบื้องเสียหาย โดยนางจินตนา จันทะเกษ และสามีได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอรวมทั้งภาพนิ่งเอาไว้ด้วย และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานประจำพื้นที่ ร.29 ช่วยกันไล่ต้อนช้างป่าตัวดังกล่าวด้วยการใช้หนังสติ๊กยิงใส่และร้องตะโกนขับไล่ จนกระทั่งเวลา 06.00 น. ช้างจึงเดินกลับคืนสู่ผืนป่า
โดยนางจินตนา จันทะเกษ เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่กับสามีก็ได้ยินเสียงกิ่งต้นไม้ที่อยู่ภายในบ้านหักโค่น และรู้ได้ทันทีว่าช้างป่ากำลังโน้มกิ่งมะม่วงลงมากิน จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาให้ความช่วยเหลือ สำหรับบ้านพักของตนปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่เศษ ภายในบริเวณบ้านได้ปลูกต้นมะม่วงเอาไว้กว่า 10 ต้น ซึ่งช้างป่าตัวดังกล่าวได้เดินชนรั้วบ้านที่ทำด้วยอิฐบล็อกและลวดหนามเข้ามาทางด้านหลังบ้านจนรั้วพังเสียหายหลายจุด สำหรับการซ่อมแซมศาลาที่ได้รับความเสียหายคงต้องชะลอไว้ก่อน เพราะเชื่อว่าช้างป่าตัวดังกล่าวคงจะเข้ามาอีกอย่างแน่นอน โดยจะรอให้เข้าสู่ฤดูฝน เพื่อให้มั่นใจว่าช้างจะไม่กลับลงมาอีก
ด้านนายเสรี คงอยู่ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ กล่าวว่า ช้างป่าตัวดังกล่าวได้เข้ามาทำลายทรัพย์สินของนางจินตนา อดีตข้าราชการครูเป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยตนได้สั่งการให้ชุด ชรบ. กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระเข้าให้ความช่วยเหลือ และจะได้ประสานทหารช่างมาทำการซ่อมแซมส่วนที่ได้รับความเสียหายให้ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าควรนำช้างตัวนี้เข้าไปอยู่ในศูนย์ดูแลช้าง เนื่องจากช้างพิการ หูแหว่ง ตาบอด อีกทั้งมีอายุมาก หากปล่อยไว้เช่นนี้ก็จะเข้ามาในเขตชุมชนอีก และเกรงว่าอาจเกิดคลุ้มคลั่งทำร้ายชาวบ้าน หรือชาวบ้านอาจเกิดความโมโห และทำอันตรายช้างได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการอนุรักษ์ช้างไทยซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองในที่สุด
