เกษตรกร’ห้วยจระเข้มาก’พอใจ หลังชลประทานส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือ

กรมชลประทานชี้แจงกรณีเกษตรกรบ้านห้วยจระเข้มาก หมู่ 17 ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 20 ครัวเรือน ที่งดทำนาปรังหันมาปลูกพืชอายุสั้นตามนโยบายภาครัฐ เพื่อเก็บผลผลิตบริโภคและขายกลับเจอวิกฤตแล้งซ้ำ น้ำที่เคยไหลผ่านมาตามคลองชลประทานเหือดแห้งไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงพืชผักเริ่มเหี่ยวเฉา วอนภาครัฐสูบน้ำจากลำห้วยธรรมชาติช่วยเหลือ นั้น

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า กลุ่มเกษตรดังกล่าวมีพื้นที่การเกษตรอยู่ในเขตพื้นที่ชลประทานของคลองส่งน้ำฝั่งขวาอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ซึ่งสถานการณ์น้ำเมื่อสิ้นฤดูฝน เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 61 ที่ผ่านมา อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก มีปริมาณน้ำในอ่างฯเพียง 800,000 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) หรือประมาณร้อยละ 3 ของความจุอ่างฯ ซึ่งต่ำกว่าปริมาณน้ำใช้การได้ในขณะนั้น ส่งผลให้ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการปลูกพืชฤดูแล้งได้ จึงได้ขอความร่วมมือจากเกษตรกร ให้งดทำการเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูแล้งนี้ โดยได้ชี้แจงผ่านกลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ตั้งแต่ในช่วงต้นฤดูแล้งที่ผ่านมา

สำหรับเกษตรกรกลุ่มที่เดือดร้อนดังกล่าว มีจำนวน 20 ราย พื้นที่ได้รับผลกระทบประมาณ 55 ไร่ ได้ทำการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง โดยอาศัยน้ำที่รั่วซึมจากระบบการผลิตน้ำประปาแล้วไหลลงสู่คลองชลประทาน ประมาณ วันละ 3,000 ลบ.ม. ซึ่งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ ได้มีการปรับปรุงระบบการผลิตน้ำประปา เพื่อลดการสูญเสียน้ำจากการผลิต จึงไม่มีน้ำจากการรั่วซึมจากระบบการผลิตน้ำประปาไหลลงคลองชลประทานอีก ทำให้เกษตรกรไม่มีน้ำใช้ เบื้องต้นโครงการชลประทานบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกับเกษตรกร โดยได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว 1 เครื่อง เพื่อสูบน้ำจากลำห้วยจระเข้มากเข้าไปช่วยเหลือจนเป็นที่พึงพอใจของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2562 เป็นต้นมา

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image