วันที่ 5 เมษายน 2562 พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวภายหลังนำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร, เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ,อาสาสมัครดับไฟป่า ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ได้เดินเท้าขึ้นเขาดอยหลวงเชียงดาว บริเวณหลังวัดบ้านถ้ำเชียงดาว เพื่อตรวจเยี่ยมดูการทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไฟป่า และมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค – บริโภคให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าแจกหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชน และสาธิตสร้างการรับรู้ความเข้าใจถึงวิธีในการดับไฟป่าอย่างถูกต้องมี่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีฝากข้อความมาให้กำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่ในการแก้ปัญหาหมอกควัน และไฟป่า และขอให้มุ่งมั่นในการแก้ปัญหาให้สำเร็จ หากต้องการอุปกรณ์อะไรให้ร้องขอไปยังหน่วยงาน รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ในส่วนพื้นการทำเกษตรใหม่ ทางนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใย ซึ่งปีนี้ทางรัฐบาลเตรียมประชุมพูดคุย ปรับแก้การปลูกพืชเชิงเดียวในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งทิศทางการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้จากจุดความร้อนเมื่อวานนี้ในพื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด พบว่าลดลงอย่างมาก เหลือประมาณ 250 กว่าจุด จาก 3,000 กว่าจุด รวมถึงการบูรณาการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาจากทั้งทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทุกฝ่าย
“เบื้องต้นการจับกุมผู้ลักลอบเผาไฟป่า ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ ตอนนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 176 ราย ขณะที่ อ.เชียงดาว จับได้แล้ว 6 รายด้วยกัน ในขณะที่บรรยากาศทั่วไปในตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าหมอกควันยังคงปกคลุมทั่วบริเวณ ประชาชนบางส่วน พ่อค้าแม่ค้า สวมใส่หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา และหน้ากากอนามัย N95 ในการมาขายของและจับจ่ายซื้อของในช่วงเช้า ซึ่งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลต่อสุขภาพประชาชน ส่วนมาตรการบังคับใช้กฏหมาย ประกาศห้ามเผาเด็ดขาดในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา โดยจุดความร้อนใน 9 จังหวัดภาคเหนือมาจากพื้นที่ป่า 95% พื้นที่เกษตรเพียง 1%”
สำหรับภาพรวมของการดำเนินงานนั้น พล.ท.ฉลองชัย กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ ติดตามข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อให้เห็นจุดความร้อน และกำหนดเขตพื้นที่เสี่ยง 3 ลักษณะ คือ พื้นที่เมือง พื้นที่การเกษตร และพื้นที่ป่า แบ่งเป็น 185 ตำบล 9 จังหวัด โดยให้แต่ละอำเภอสนธิกำลังทุกฝ่าย ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ออกปฏิบัติการดับไฟป่า ขณะเดียวกันทุกจังหวัดได้ประกาศห้ามเข้าพื้นที่ป่าเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ ทั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตป่าไม้ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย
