พฆัคฆ์ไพรบุกเคลียร์ผู้บุกรุกป่า ก่อน’บิ๊กเต่า’บินเปิดงาน’ประชารัฐพิทักษ์ป่านาน’

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม เวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชลทิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้  นายสมชัย มาเสถียร รองอธิบดีกรมป่าไม้และชุดปฏิบัติการพิเศษ “พยัคฆ์ไพร” ได้นำของกลางกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ตรวจยึดได้จำนวนหนึ่ง เช่น อาวุธปืนลูกซองพร้อมกระสุน เครื่องเลื่อยยนต์และโซ่ ไฟแช็ก สารฆ่าหญ้าและกำจัดศัตรูพืชบรรจุแกลลอน มาแถลงข่าวที่ห้องประชุมสำนักงานป่าไม้ จ.น่าน ริมสะพานพัฒนาภาคเหนือ ถึงผลงานการกวาดล้าง ตั้งแต่มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 64 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2557 คำสั่งที่ 66 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2557และรัฐบาลให้นโยบายและหลักการร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อหยุดยั้งการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ที่ผ่านมา 2 ปี กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ปฏิบัติการพร้อมกันทั้งและเหมือนกันทุกจังหวัด ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ เขตป่าไม้หรือป่าชายเลน สามารถยึดคืนพื้นที่จากนายทุนตลอดถึงบุคลบุกรุกป่าหลังปี 2557 ได้พื้นที่หลายแสนไร่

“ในส่วนของกรมป่าไม้ได้กำหนดเป้าหมายภายใต้ภารกิจยึดคืนพื้นที่ปี 2559 ไว้จำนวน 1 แสนไร่ ทำไปได้แล้วกว่า 6 หมื่นไร่ สำหรับการมา จ.น่านครั้งนี้ ตรวจสอบพบตั้งแต่ปี 2551-2557 มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าเป็นพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 1 ล้านไร่ และมีแนวโน้มบุกรุกเพิ่มเติมจากผู้อยู่ใกล้ชิดพื้นที่ โดยมีตัวเลขไม่น้อยกว่า 5,000 ไร่ จึงต้องทำก่อนเพื่อหยุดยั้งไม่ให้กระทำดังกล่าวให้ได้ก่อน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา” นายชลทิศกล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการจะไม่ให้กระทบกับผู้ยากไร้ตามนโยบายที่กำหนดไว้ ทุกครั้งได้สนธิกำลังร่วมกับทหาร ตำรวจ ป่าไม้ กรมอุทยานฯ เข้าร่วมทุกครั้ง ในช่วง 3-4 วันนี้ กรมป่าไม้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้กลั่นแกล้งหรือเลือกปฏิบัติกับบุคคลใดเพราะไม่เคยรู้จักใครเลยอยู่แล้ว จึงเป็นการทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติจริงๆ

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า ภายใต้แผนปฏิบัติการพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และอธิบดีกรมป่าไม้มาเปิดแผนปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย ที่ จ.น่าน ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมเป็นต้นมา ที่ อ.นาน้อย เกิดเหตุบุกรุกพื้นที่ป่าไม้หลังปี 2557 ดำเนินคดี 230 ไร่ ต่อมาวันที่ 19 พฤษภาคม เข้าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติดอยภูคา-ผาแดง พบการสร้างรีสอร์ตชื่อ “บ้านสวนภูพญา” ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ เจ้าของเป็นนายกองค์การบริหารส่วยตำบลดงพญา (นายเมธาวัฒน์ พุทธิธาดากุล) ให้การว่าเป็นที่ดินของตนครอบครองอยู่ 14 ไร่ ก่อสร้างรีสอร์ตไว้ประมาณ 1 ไร่ 3 งานเศษ นอกจากนั้นยังนำทะเบียนบ้าน 3 เล่มมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว เจ้าหน้าที่พบเป็นการทำผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ จึงดำเนินคดีและแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง นายก อบต.ดงพญาพร้อมกับภรรยาด้วย เพราะเป็นผู้ยื่นก่อสร้างอาคารที่อยู่ในที่ป่าดังกล่าว

“ต่อมาขยายผลไปจุดที่ 2 ป่าบ้านผาคับ หมู่ 2 ต.บ่อเกลือ อ.บ่อเกลือ มีบุกรุกป่าประมาณ 14 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง ส่วนหนึ่งบุกรุกเข้าไปในเขตป่าชุมชนด้วย จึงได้ตรวจยึดและดำเนินคดี” นายอรรถพลกล่าว และว่า ต่อมาวันที่ 19 ต่อเนื่องถึงวันที่ 20 พฤษภาคม ได้รับประสานงานจากตำรวจภูธรภาค 5 แจ้งเหตุมีราษฎรถูกต้นไม้ล้มทับเสียชีวิต ที่บ้านไหล่น่านเหนือ หมู่ 8.ต.ไหล่น่าน อ.เวียงสา เมื่อไปตรวจสอบพบต้นไม้ดังกล่าวถูกตัดโดยผิดกฎหมาย ยังพบไม้ซุงอีก 80 ท่อนที่วางกองอยู่ในพื้นที่ถูกตัดโค่นลง หลังตรวจสอบเป็นไม้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีร่องรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ มีแต่รอยดวงตราที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.สวนป่า ซึ่งต้องตรวจสอบและขยายผลอีกว่าถูกต้องหรือเป็นไม่ เป็นตราของใคร

Advertisement

นายอรรถพลกล่าวอีกว่า เป็นที่น่าสังเกตพื้นที่เกิดเหตุอยู่ไม่ห่างจากชุมชน ไม้ที่ตรวจยึดทั้งหมดเป็นไม้ที่มีค่า ทั้งไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้มะค่าโมง ไม้มะเกลือ ไม้มะกล้ำ ปริมาตรประมาณ 19 ลบ.ม. จึงประสานพนักงานสอบสวนและขยายผลเพิ่มเติม ว่าญาติของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องการตัดไม้หรือผู้เสียชีวิต เกี่ยวข้องกับขบวนการตัดไม้อย่างไร พร้อมทั้งดำเนินคดีข้อหาบุรุกพื้นที่ป่า 50 ไร่

“ต่อมาวันที่ 21 พฤษภาคม ชุดพยัคฆ์ไพรได้รับทราบข้อมูลการบุกรุกขยายพื้นที่ทำกินบริเวณบ้านบ่อหอย อ.เวียงสา จ.น่าน จึงแบ่งกำลังออกเป็น 2 ภารกิจ ชุดที่ 1 สร้างความเข้าใจและเจรจากับกลุ่มชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง หมู่ 2 และหมู่ 7 ที่อาศัยอยู่รอบบริเวณบุกรุกให้ทราบว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ยอมให้เข้าไปบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติมโดยเด็ดขาด สำหรับส่วนที่บุกรุกไปแล้วถ้าใครเข้าไปทำกินเราก็จะดำเนินคดี และอธิบายให้ฟังถึงแนวทางดำเนินงานตามคำสั่ง คสช. สำหรับภารกิจที่ 2 การบังคับใช้กฎหมายโดยปูพรมพื้นที่ถูกบุกรุกทั้งหมด พบการเจาะเข้าไปในพื้นที่ป่าเพื่อปลูกขิง ข้าวโพดอาหารสัตว์” นายอรรถพลกล่าวอีก

ขณะที่ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้เชี่ยวชาญหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า สรุปการปฏิบัติการเชิงรุกบังคับใช้กฎหมายในห้วงเวลา 3-4 วัน เบื้องต้นวิเคราะห์มูลเหตุ ลักษณะ ประเภท โดยใช้อากาศยานบินตรวจลงพื้นที่ จ.น่าน บุกรุกใช้ที่ดินไม่เหมือนที่อื่น มีความแตกต่างทางด้านชนเผ่า วัฒนธรรม เรื่องการเกษตรจึงเน้นปลูกข้าวโพดเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือสวนผลไม้ เช่น ลิ้นจี่ ลำไย และอีกประเภทที่แทรกเข้ามาแต่ยังไม่เยอะคือยางพาราในบางโซน ด้วยความซับซ้อนของระดับภูเขาแตกต่างกัน ระดับของพืชผลก็เลยต้องแตกต่างกันไป อีกประเภทคือเรื่องข้าวเจ้าที่ปลูกบนภูเขา พบการปลูกชาและไม้เมืองหนาวบางประเภทแทรกเข้ามา ทั้งหมดนี้เป็นการบุกรุกป่าแบบมือเปล่าหรือไม่มีเอกสารสิทธิประเภทที่สองใช้ที่ดินแบบรีสอร์ต แต่เท่าที่ดูยังไม่ถือว่ารุนแรงและยังไม่มากเพราะส่วนใหญ่อยู่ในเขตไม่ผิดกฎหมายมาก หรือจุดที่สุ่มเสี่ยง บนเขตภูเขาสูงชันในป่าต้นน้ำ ยังเกาะกลุ่มกันอยู่ในโซนไม่น่าวิตก รูปแบบยังไม่รุนแรงเหมือนบางจังหวัด เช่น เพชรบูรณ์หรือภูทับเบิก

Advertisement

201605221324163-20021028190217

นายชีวะภาพกล่าวว่า ประเภทที่สามเป็นเรื่องการทำไม้มีค่า โดยเฉพาะไม้ชิงชันและไม้ประดู่ ในโซนรอยต่อ จ.แพร่ พะเยา สำหรับกลุ่มบุกรุกใช้ที่ดินหรือถือครอง ตามลำดับความรุนแรง กลุ่มที่ 1 เช่นบ้านบ่อหอย หลังจากยุทธการเชิงรุก ใช้ภาพถ่ายทางอากาศ อากาศยานบินตรวจ และการข่าว ยังมีความหนักหน่วงรุนแรงเรื่องการทำไม้ ยาเสพติดและแทรกด้วยเรื่องอิทธิพลบ้าง มูลเหตุอีกประการหนึ่งของที่นี่พบการเปิดพื้นที่ใหม่เพื่อทำขิง ลักษณะเปิดป่าใหม่ ทำครั้งเดียวแล้วก็ย้ายที่ไปเรื่อยๆ และการปลูกข้าวโพด

นายชีวะภาพกล่าวอีกว่า เราแบ่ง 4 ชุดปฏิบัติการเข้าที่บ้านบ่อหอย ชุดแรกเน้นพื้นที่บุกรุกทำขิง บินพบลักษณะเจาะเป็นไข่แดงจากถนนเข้าไปในป่าธรรมชาติ เปิดพื้นที่แล้วทั้งหมด 3 จุด รถเจ้าหน้าที่แทบจะเข้าไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช้อากาศยานบิน แต่เข้าไปได้เพียงจุดแรกไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ ทำขิงไปแล้ว 2 แปลงไม่เกิน 5 วัน มีแคมป์คนงาน 2-3 หลังและพบอาวุธปืนแต่คนเฝ้าหลบหนีเข้าป่าไปได้ อีกจุดเป็นพื้นที่เก่าและจุดที่เหลือยังหาไม่เจอ ทั้งนี้ คาดว่าการเริ่มต้นเปิดพื้นที่ดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 400 ไร่ในปีหน้า เพราะพบพื้นที่รอบๆ กำลังถูกเผาทำลายไปเพื่อเตรียมรองรับเฟส 2, 3 ต่อไป

“สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการเจาะเข้าไปแบบไข่แดง รถของพวกเราเข้าไปลำบากมาก ติดอุปสรรคต่างๆ เช่น ตอไม้ เวลาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจปกติไม่มีโอกาสได้เห็นเลย เขาซ่อนไว้ ต้องใช้วิธีบินเข้าไปล็อกเป้าแล้วใช้รถค่อยๆ ประคองตัวเข้าไปที่เกิดเหตุ” นายชีวะภาพกล่าว และว่า ตนจึงเสนอให้หยุดยั้งให้ได้ โดยตรวจยึดและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและพืชผลออกไปเพื่อเตือนไม่ให้เข้ามาทำอีก แบ่งเป็น 4 ชุด ชุดล่วงหน้า ชุดสแกนและตรวจเจอขณะกำลังการทำไม้เสร็จ เตรียมจะขนย้ายหนีแต่ต้องทิ้งไม้และอุปกรณ์ไว้ เพราะเฮลิคอปเตอร์บินมาเจอ สอดรับกับชุดปฏิบัติการอื่นเข้ามาโอบล้อมอีกด้าน

201605221324167-20021028190217

นอกจากนี้นายชีวะภาพกล่าวอีกว่า ชุดที่สามเข้าตรวจค้นในหมู่บ้าน พบไม้แปรรูปอีก 14 ท่อนเหลี่ยม อาวุธปืนและพิรุธการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น บุคคลเดียวเปิดบัญชีธนาคารไว้ไม่ต่ำกว่า 6 บัญชี รวมสามี-ภรรยาเปิดบัญชีไว้กว่า 10 บัญชี หมายเลขที่ จ.ระยอง จึงส่งให้พนักงานสอบสวนไปประกอบการขยายผล เพราะขบวนการค้าไม้มีค่ามีความรุนแรง เคยตรวจยึดได้หลายร้อยเหลี่ยม เพราะพื้นที่ดังกล่าวยังมีไม้ชิงชันและไม้ประดู่อยู่จำนวนมาก ต้องรับออเดอร์ส่งออกไปต่างจังหวัดแน่นอน เพราะเรารู้ว่ากลางน้ำ ปลายน้ำไปทางไหน

ต่อมานายชลทิศกล่าวสรุปอีกครั้งว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ได้ทำเฉพาะที่ จ.น่าน ตลอด 7 เดือนตั้งแต่ตนมาเป็นอธิบดีได้ทวงคืนผืนป่าจากนายทุนได้พื้นที่จำนวนมาก ทั้งคดีไม้และที่เกี่ยวกับบุกรุกที่ดิน คดีล่าสัตว์ป่า คดีเผาป่า เพราะมีหลายคนสงสัย รู้สึกไม่สบายใจว่ากรมป่าไม้เลือกมาปฏิบัติที่น่านด้วยเหตุผลอื่นหรือเปล่า ย้ำว่าเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล คัดกรองพี่น้องประชาชนระหว่างผู้ยากไร้กับนายทุน การคัดเลือกพื้นที่ระหว่างบุกรุกใหม่กับที่ใช้ประโยชน์เดิม กรณีพื้นที่ใช้ประโยชน์เดิมก่อนปี 2557 กรมป่าไม้มีมาตรการอยู่และจะนำเสนอที่ประชุมศาลากลาง จ.น่าน ในภาพรวมเคยนำเสนอที่แม่แจ่มโมเดลมาครั้งหนึ่ง วันนี้มาทำในส่วนของ จ.น่าน

ผู้สื่อข่าวถามกรณีในอดีตกรมป่าไม้ สมัยนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ เคยเปิดยุทธการลักษณะเช่นนี้ มวลชนพื้นราบเข้าไปทำลายสวนลิ้นจี่ของชาวม้งที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.เชียงกลาง จ.น่าน กระทั่งถูกองค์กรสิทธิมนุษยชนเข้าตรวจสอบกระทั่งรัฐบาลขณะนั้นสั่งจ่ายชดเชยให้เป็นเงินหลายสิบล้านบาท พื้นที่ป่าก็ไม่ได้คืน นายชลทิศตอบว่าคำสั่ง คสช. เท่ากับกฎหมาย เราจะไม่ดำเนินการกรณีที่มิใช่นายทุนกับผู้ยากไร้ที่อยู่มาก่อนปี 2557 ดังนีขั้นชาวเขาหรือชาวเรา ชาวอะไรก็ตาม ถ้าพิสูจน์ทราบเป็นผู้ยากไร้ เราจะดูแลตามเงื่อนไขที่จะคุยกันต่อไป ถ้าเป็นกรณีลุ่มน้ำชั้น 3 4 5 จัด คทช.แน่นอน กรณีลุ่มน้ำชั้น 1 2 ให้อยู่ต่อไปแต่ห้ามขยาย ส่วนมาตรการออกใบอนุญาตหรือรองรับอยู่ระหว่างวางแผน ขอยืนยันว่าตนอยู่กับเรื่องจัดการที่ดินมาตลอดชีวิต ทำงานที่ดินมาตั้งแต่รับราชการครั้งแรกมา 10 ปี เงื่อนไขไม่ได้อยู่ที่กรมป่าไม้ แต่อยู่ที่มติ ครม. หลายฉบับ การปลดล็อคไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด อาจทำให้เกิดการบุกรุกเพิ่มเติม จึงได้มาออกปฏิบัติการต่างๆ เพื่อป้องปรามไปด้วย

เมื่อถามถึงนโยบายการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐ หรือ คทช. ที่จะช่วยเหลือผู้ยากไร้มีที่ทำกินในป่าสงวนแห่งชาติอย่างไร นายชลทิศกล่าวว่า หลักปฏิบัติการคัดกรองจะดูแลเฉพาะผู้ยากไร้ ผู้ที่สมควรจะยังใช้ประโยชน์ในทรัพยากรอย่างต่อเนื่องได้ หมายความว่าบุคคลนั้นต้องไม่มีที่ทำกินอยู่ที่อื่นมั่นคงอยู่แล้ว เช่นคนในเมืองหรือมีที่ดินเป็น 100 ไร่ แล้วยังประสงค์อยากมีที่อยู่ไม่ถือว่าอยู่ในเงื่อนไข มาตรการคัดกรองจึงอาศัยฝ่ายปกครอง กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อาศัยผู้ที่มีส่วนทราบเบาะแสว่าใครสมควรได้รับสิทธิหรือไม่ สำหรับบุคคลที่อยู่ในเกณฑ์ รัฐบาลมีนโยบายจัดที่ดินเพื่อชุมชนให้อยู่แล้ว ตามกฎเกณฑ์ คทช. นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เราเสนอไปแล้วเป้าหมายประมาณ 4 แสนไร่ ดำเนินการไปแล้ว 55 จังหวัด หรือ 80 กว่าแห่ง และการใช้ลุ่มน้ำชั้น 1-2 ตามนโยบายหมู่บ้านป่าไม้แผนใหม่ตามแนวพระราชดำริ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายชลทิศ และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ที่ 11 และที่ 13 จ.น่าน แพร่ พิษณุโลก ลำปาง มีหมายกำหนดจะเดินทางมาร่วมประชุมมอบนโยบายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และเป็นประธานเปิดงาน “ประชารัฐพิทักษ์ป่าน่าน” โดยมีนายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ต้อนรับและกล่าวรายงานสถานการณ์ด้านต่างๆในพื้นที่ ที่ห้องประชุมพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ชั้น 3 ศาลากลาง จ.น่าน  หลังจากนั้นเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน พลเอกสุรศักดิ์จะเดินทางไปท่าอากาศยานนครน่าน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจเยี่ยมหน่วยงานต่างๆ และพักแรมที่ จ.พิษณุโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image