เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พ.อ.พศิน แสนคำ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จังหวัดเชียงรายฝ่ายทหาร นายอำนาจ เจิมแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) เชียงราย นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 นายครรชิต ชมภูแดง รักษาราชการแทนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย นายสมศักดิ์ เจียมสงวนวงศ์ ผํอำนวยการสำนักจัดการป่าไม้ที่ 2 เชียงราย ออกตรวจติดตามและประชุมหารือการดำเนินงานผลการบังคับใช้มาตรการของศูนย์อำนวยการร่วมติดตามสถานการณ์แก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันภายในพื้นที่ จ.เชียงราย ที่ห้องประชุมอำเภอเวียงป่าเป้า ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 118 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า โดยมีทางนายอนันต์ สมุทรารินทร์ นายอำเภอเวียงป่าเป้า นำหัวหน้าหน่วยงานอำเภอเวียงป่าเป้า ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ตลอดทั้งผู้เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล
ทั้งนี้ มีการรายงานในที่ประชุมว่า สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า เกิดจุดความร้อน 22 จุด จำแนกเป็นจุดเดิมที่ดับไม่สนิท 10 จุด และจุดใหม่ 12 จุด เชื่อได้ว่าเกิดไฟป่าจากการมีผู้ลักลอบเข้าป่าเพื่อหาของป่า ล่าสัตว์ คึกคะนอง และกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่ เกิดแล้วลุกลามในบริเวณพื้นที่สูงชัน ภูเขาสูง ที่ลาดชั้น ห่างไกลชุมชน เชื้อเพลิงแห้งมีปริมาณมาก ทำให้เข้าดับยากลำบาก มีการจัดชุดลาดตระเวนจุดเสี่ยง ทั้งในเขตป่าและเขตอนุรักษ์ จัดชุดลาดตระเวน ชุดเฝ้าระวังและดับไฟมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเป็นหลักฐาน ทำการยึดมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ริมป่า ถ้าเกิดไฟเรียกชาวบ้านมาร่วมกันดับ และกล่าวประณามการกระทำที่ก่อให้เกิดไฟป่าแล้วส่งผลต่อการทำร้ายบั่นทอนสุขภาพ ปลูกพืชทดแทนพืชล้มลุก หาตลาดเป็นช่องทางค้าขายผลผลิตทางการเกษตรลดการค้าของป่า ส่งเสริมพัฒนาต้นไผ่ด้วยการให้ปลูกไผ่เพื่อผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่เวียงกาหลง ทั้งนี้ ผลการดำเนินการอย่างเข้มข้นในห้วงวันที่ 3-7 เมษายน 2562 จับกุมดำเนินคดี 4 คดี พื้นที่เสียหาย 134 ไร่เศษ
นายประจญ กล่าวว่า มีความมั่นใจที่การปฏิบัติการยุติไฟป่าและหมอกควันจะสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชาวเชียงราย แต่ก็ยังพบมีการเผาในหลายจุด ซึ่งจัดส่งให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 คน ลงพื้นที่แต่ละอำเภอที่เกิดการเผาไหม้แล้ว เพื่อให้มีการดับไฟโดยทันทีและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก ซึ่งยอมรับว่าบางจุดนั้นอยู่บนพื้นที่สูงยากต่อการดับได้โดยง่าย ซึ่งทางทหารมณฑลทหารบกที่ 37 ก็ได้อนุเคราะห์เฮลิคอปเตอร์มาช่วยสนับสนุนในการดับไฟทำให้ดับได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อดับจุดเดิมแล้ว ก็ยังพบการเผาไมหม้ยังจุดอื่นๆอีก ล่าสุดจึงมอบมอบอำนาจให้นายอำเภอ และกำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง ชรบ.ใช้อำนาจที่มีอยู่ตามกฎหมายควบคุมดูแลพื้นที่ในความรับผิดชอบ จัดชุดประกอบกำลังเข้าพื้นที่ป่าเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ทำทุกวิถีทางให้ไฟดับทุกกอง สกัดการลุกลามให้ดับสนิท รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น
