วันที่ 8 เมษายน พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.กฤษดา ศรีอิสาณ ผกก.2 บก.ปส.3 พ.ต.อ.อัครวิชย์ กำแพงนิล ผกก.3 บก.ปส.3 พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.กลุ่มงานการข่าว บช.ปส.ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กก.2 บก.ทท.2 (ชุดเชียงราย) ทหาร ศป.ปส.ชน.ควบคุมตัวนายวิโรจน์ มาเยอะ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 145 หมู่ 1 ต.สันกลาง อ.พาน จ.เชียงราย และนายเอกภพ บริณัย อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 230 หมู่ 1 ต.สันกลาง อ.พาน ผู้ต้องหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังจากเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีเครือข่ายค้ายาเสพติดต้องการจะนำยาบ้าจำนวนมากออกมาจำหน่ายเจ้าหน้าที่จึงสวมรอยเข้าไปติดต่อซื้อ โดยนัดนายวิโรจน์ และนายเอกภพ เจรจาซื้อขายทำทีกินสุกี้กันที่ร้านสุกี้ภายในศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่า สาขาเชียงราย อ.เมืองเชียงราย กระทั่งตกลงจะซื้อยาบ้าจำนวน 500,000 เม็ด มูลค่า 13,750,000 บาท โดยนายวิโรจน์และนายเอกภพขอไปจัดเตรียมยาเสพติดให้ได้จำนวนแล้วจึงจะนำมาส่งมอบให้
ต่อมาวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา นายวิโรจน์ได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่สวมรอยรอซื้อยาบ้าดังกล่าว โดยนัดจะส่งมอบบริเวณถนนศรีปิงเมือง ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 2 เมษายน เจ้าหน้าที่พบนายวิโรจน์ได้ขับรถยนต์ไปหาเจ้าหน้าที่แต่กลับขอดูเงินสดล่อซื้อ แล้วอ้างว่าจะนัดส่งมอบยาบ้ากันภายหลัง เจ้าหน้าที่จึงพาไปดูเม็ดเงินแล้วแยกย้ายกันไป กระทั่งวันที่ 6 เมษายน ทั้งคู่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ว่าจะนำยาบ้ามาส่งมอบให้ตามจำนวนในเขต อ.เมืองเชียงราย และขอให้นำเงินสดดังกล่าวมาส่งมอบให้ด้วย เจ้าหน้าที่จึงออกสืบสวนติดตามจนพบว่า นายวิโรจน์ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบอร์น ทะเบียน บห-3457 เชียงราย โดยมีนายเอกภพขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักค์ไทเกอร์ สีบอร์น ทะเบียน บร-7590 เชียงราย นำหน้าไปตามถนนสายเด่นห้า-ดงมะดะ อ.แม่ลาว และวกไปทางถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปทาง อ.พาน จ.เชียงราย แล้วไปจอดริมถนนพหลโยธินพื้นที่ หมู่ 10 ต.ทรายขาว อ.พาน เพื่อนัดให้เจ้าหน้าที่ไปรับยาเสพติด แล้วส่งมอบเงินสดดังกล่าวให้พวกตน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวทำการจับกุม โดยทันทีที่ทั้งคู่ทราบว่าถูกติดต่อล่อซื้อได้พยายามหลบหนีทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกแรงไล่จับกุมกันพักใหญ่
สอบสวนเบื้องต้นทั้งคู่ให้การรับสารภาพ โดยนายวิโรจน์ระบุว่า มีอาชีพขายผลไม้ในตลาดเมืองใหม่ จ.เชียงใหม่ และได้ร่วมกับนายเอกภพติดต่อหายาบ้ามาให้ได้ 500,000 เม็ด เพื่อจำหน่าย โดยนายเอกภาพเป็นคนติดต่อต้นทางยาบ้าเองทั้งหมด จากนั้นวางแผนกันว่าเมื่อซื้อขายเสร็จและจ่ายค่าต้นทางแล้วจะเหลือกำไรแล้วนำมาแบ่งกันคนละ 1 ล้านกว่าบาท ส่วนนายเอกภพสารภาพว่ามีอาชีพทำสวนอยู่ที่ อ.พาน เมื่อทราบว่ามีผู้ต้องหาหาซื้อยาบ้าจึงติดต่อหาแหล่งยาเสพติดในฝั่งประเทศเมียนมา จำนวน 250 มัดๆ ละ 2,000 เม็ด ราคามัดละ 40,000 บาท ซึ่งแหล่งต้นทางยาเสพติดระบุว่า สามารถนำยาบ้าไปก่อนแล้วค่อยชำระคืนภายหลังได้ จากนั้นได้นำของกลางมาส่งมอบให้บริเวณลานจอดรถโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ในเขต อ.เมืองเชียงราย เมื่อได้ของกลางแล้วจึงได้ร่วมกับนายวิโรจน์นัดหมายกับคนรับซื้อให้มารับในราคามัดละ 55,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวและพาไปขยายผลไปที่บ้านผู้ต้องหาตรวจยึดรถยนต์กระบะเพิ่มเติมได้อีก 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน สร้อยคอทองคำรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 1 บาท จำนวน 3 เส้น จากนั้นนำตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
