เมื่อวันที่ 9 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสภาพหมอกควันที่ยังปกคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงรายอย่างหนาแน่น ประกอบอุณภูมิที่เพิ่มขึ้นในระยะนี้สูงกว่า 30 องศาเซลเซียส กลางวันจึงมีอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติกันมากขึ้น โดยเฉพาะที่น้ำตกขุนกรณ์ ตั้งอยู่ ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของ จ.เชียงราย ด้วยสภาพพื้นที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อนมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 700-1500 เมตร มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมจำนวนมากทำให้มีหมอกควันเบาบางและสายน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกขุนกรณ์จึงทำให้น้ำเย็น หลายคนนิยมนำเท้าแช่น้ำเพื่อคลายร้อนและลงเล่นน้ำเพื่อความสนุกสนาน
โดยนางศศิกาญจน์ เทียมเศวต นักท่องเที่ยวชาวจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่าเป็นปีแรกและครั้งแรกที่พาลูกและครอบครัวมาเที่ยวที่น้ำตกขุนกรณ์ เพราะที่นี่มีสายน้ำที่ใสและไหลเย็น นักท่องเที่ยวที่นี่ก็น่ารัก ที่สำคัญคือที่เชียงรายน้ำจะมาก โดยตนไปที่ จ.ลำปางมาก่อน ที่นั่นแล้งจะขาดแคลนน้ำ แต่ที่นี่น้ำเยอะ มีโอกาสจะมาเที่ยวอีก เพราะระยะทางก็ไม่ไกล มีร้านค้าจำหน่ายอาหารหรือนำอาหารมาทานได้ประทับใจมาก
ขณะที่การตรวจวัดค่าฝุ่นลอองในอากาศในวันนี้พบว่าอากาศเริ่มแจ่มใสขึ้นหลังทางจังหวัดเอาจริงเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาไหม้ซึ่งเป้นต้นเหตุของหมใอกควันตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯที่ให้ควบคุมให้ได้ภายใน 7 วัน ซึ่งพบว่าจุดฮอทสปอตลดลงเหลือไม่ถึง 5 จุด ส่งผลให้พื้นที่ ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย มีค่าฝุ่นละอองขนาด 2.5 อยู่แค่ 56 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่าพีเอ็ม 10 อยู่ที่ 88 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ค่าพีเอ็ม 2.5 ยังสูงอยู่ที่ 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าพีเอ็ม 10 อยู่ที่ 139 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ