เมื่อวันที่ 10 เมษายน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองสระบุรีได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า เกิดเหตุไฟไหม้ป่าที่รกร้างกว่า 40 ไร่ ในพื้นที่ชุมชนวัดดาวเสด็จ ซอย 23 แยก 3 และบริเวณหลังการเคหะ 1 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี จีงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี พร้อมด้วย ผศ.ดร.ภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสระบุรี เข้าอำนวยการดับเพลิง นำรถดับเพลิง 19 คันเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้
ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้พื้นที่ป่ารกร้าง ใกล้กับบ้านเรือนประชาชน 2 ชุมชน กว่า 1,000 ครัวเรือน โดยมีชาวบ้านเข้ายืนดูเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ซึ่งเกรงว่าจะลุกลามเข้าบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้กระจายกำลังรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงตามจุดต่างๆ กว่า 10 จุด โดยใช้เวลาควบคุมเพลิงกว่า 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง แต่ยังคงมีเจ้าหน้าที่คอยฉีดน้ำควบคุมไว้ตลอดเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นอีก
จากกการสอบถามนายช่างดอน ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นไฟลุกไหม้จากข้างหลังบ้านที่เผาข้าวหลามขาย ซึ่งมีเปลวไฟเพียงเล็กน้อย จากนั้นได้เกิดเปลวไฟลุกไหม้อย่างแรง แต่คิดว่าน่าจะดับได้ทันอยู่ ตนจึงได้เข้ามาดูในพื้นที่โกดังที่อาศัยอยู่ แต่เห็นไฟลุกไหม้อย่างแรงเกรงว่าน่าจะเอาไม่อยู่ จึงแจ้งไปยังเจ้าของโกดังให้เรียกรถดับเพลิงเข้ามาดับไฟ ซึ่งเกรงว่าจะลุกลามเข้าไหม้โกดัง ตนเองคิดว่าน่าจะมีคนจุดไฟเผาป่าแล้วเอาไม่อยู่ จึงทำให้เกิดไฟไหม้
ด้าน ผศ.ดร.ภาณุพงศ์กล่าวว่า สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากประชาชนในชุมชนอาจจุดไฟเผาเศษขยะเพียงเล็กน้อย แล้วเกิดไฟลุกไหม้จนเอาไม่อยู่ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทุ่งกว้าง และเป็นป่ารกทึบ พร้อมด้วยอากาศที่แห้งแล้ง จึงทำให้เกิดไฟลุกไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทางเทศบาลได้รับทราบก็รีบนำรถดับเพลิงมาฉีดน้ำสกัดควบคุมเพลิงไว้ได้
